SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ภาษีรับให้’ คืออะไร สรุปแบบเข้าใจง่ายก่อนอ่านข่าวนายก

เป็นประเด็นเดือดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ‘แพทองธาร ชินวัตร’ เมื่อ ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ที่ได้อภิปรายโดยกล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีหลีกเลี่ยงการเสียภาษีการรับให้ 

โดยได้การทำนิติกรรมอำพรางการรับหุ้นจากบุคคลในครอบครัว โดยการออกตั๋ว PN เป็นสัญญาการกู้เงินมูลค่าราวกว่า  4,000 ล้านบาท เพื่อเลี่ยงการเสียภาษีการรับให้ที่มีมูลค่าสูงถึง 218  ล้านบาท

สำหรับ ‘ภาษีการรับให้’ อาจจะยังเป็นเรื่องที่หลายๆ คนไม่รู้  TODAY Bizview จะขอพาไปดูรายละเอียดความสำคัญ โดยสรุปแบบเข้าใจง่ายที่สุด

‘ภาษีการรับให้’ หรือเรียกทั่วไปว่า ภาษีการให้ (Gift Tax) ถ้าอธิบายแบบภาษาชาวบ้าน ก็คือภาษีที่เกิดขึ้นเมื่อมีการให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์โดยไม่มีสิ่งตอบแทน เช่น พ่อแม่ให้ที่ดินแก่ลูก การได้รับมรดก หรือมีการให้เงินกันในจำนวนที่มาก

โดยภาษีนี้มีขึ้นมาเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการหลีกเลี่ยงภาษีการรับมรดก และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้รัฐ ลดความเหลื่อมล้ำและช่วยควบคุมธุรกรรมที่ผิดปกติด้วยก  ซึ่งภาษีมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ 1 ก.พ. 2559 

ทีนี้มาดูกันต่อว่าใครบ้าง? ที่จะต้องเสียภาษีการรับให้

1.กรณีให้บ้านหรือที่ดิน : คนที่ต้องจ่ายภาษีคือคนที่โอนกรรมสิทธิ์ (เช่น พ่อแม่ที่ให้ลูกแท้ๆ) แต่ถ้าเป็นลูกบุญธรรม ไม่เข้าข่ายนี้

2.กรณีให้เงินหรือทรัพย์สินอื่นๆ

  • ถ้าพ่อแม่ให้ลูกแท้ๆ หรือคู่สมรสให้กันเอง : ส่วนที่เกิน 20 ล้านต่อปี ต้องเสียภาษี
  • ถ้าเป็นการให้จากบุคคลอื่น (เช่น ญาติห่างๆ หรือเพื่อน) : ส่วนที่เกิน 10 ล้านต่อปี ต้องเสียภาษี

มาดูต่อว่าแล้วถ้าต้องเสียภาษีการรับให้  จะต้องเสียเท่าไหร่อย่างไร?

1.กรณีให้บ้านหรือที่ดิน : คนให้ต้องเสียภาษี 5% ของมูลค่าที่เกิน 20 ล้าน ตอนจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน หรือเลือกไปรวมคำนวณกับรายได้อื่นก็ได้

2.กรณีให้เงินหรือทรัพย์สินอื่นๆ  : คนรับต้องเสียภาษี 5% ของมูลค่าที่เกิน 20 ล้าน (ถ้าได้รับจากพ่อแม่/คู่สมรส) หรือเกิน 10 ล้าน (ถ้าได้รับจากคนอื่น) หรือเลือกไปรวมคำนวณกับรายได้อื่นก็ได้

สำหรับการคำนวณ ‘ภาษีการรับให้’ กรณีการให้อสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ ต้องเสียภาษี  5%  ของส่วนที่เกินกว่า 10 ล้านบาท หรือ 20 ล้านบาท (แล้วแต่กรณี) โดยวิธีการคำนวณ คือ ส่วนที่เกิน 10 ล้านบาท หรือ 20 ล้านบาท × อัตราภาษี 5% = ภาษีที่ต้องเสีย

ตัวอย่างเช่น  : พ่อยกที่ดินให้ลูกแท้ๆ โดยราคาประเมินของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 22 ล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายแล้วภาษีจะคิดจากส่วนที่เกินมาจาก  20 ล้านบาท ดังนั้นส่วนที่เกินคือ 22 ล้าน – 20 ล้าน = 2 ล้าน หลังจากนั้นให้นำ 2 ล้าน × อัตราภาษี 5% = 1  ล้านบาท  สรุปคือพ่อผู้ให้จะต้องเสียภาษีอยู่ที่ 1 ล้านบาท 

แล้วผู้มีหน้าที่เสียภาษีการรับให้ ต้องยื่นแบบฯ ภายในเมื่อไหร่? 

หากได้รับเงินหรือทรัพย์สินจากการให้ก็จะต้องนำไปยื่นภาษี เนื่องจากถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 โดยหากได้รับระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 ภายในเดือนกันยายนของปีนั้น

ส่วนรายได้ที่ได้รับระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป และหากยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ตจะได้รับการขยายเวลาเพิ่มอีก 8 วัน

ทั้งนี้ ถ้าไม่เสียภาษีรับให้ อาจโดนปรับเงินหรือเสียเงินเพิ่ม ถูกตรวจสอบย้อนหลังหรือเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งอาจมีโทษหนักในบางกรณี ดังนั้นควรยื่นภาษีให้ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงทางกฎหมาย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า