สทอภ. เผยภาพทางอากาศผ่านดาวเทียมไทยโชตพบน้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ยังมีน้ำท่วมอยู่ประมาณ 140,000 ไร่
วันที่ 28 ก.ย.2562 เฟซบุ๊ก GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์น้ำท่วมโดยระบุว่า ดาวเทียมไทยโชต ถ่ายภาพน้ำท่วมที่อุบลฯ ดาวเทียมไทยโชตโคจรผ่านประเทศไทย และได้บันทึกภาพเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 บริเวณอำเภอเมืองและอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี แสดงให้เห็นพื้นที่น้ำท่วมบางส่วนตามแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลซึ่งปรากฏเป็นโทนสีน้ำตาลในภาพ เนื่องจากจำนวนตะกอนมหาศาลที่ไหลมาพร้อมกับกระแสน้ำ และตามลำเซหลง ลำมูลน้อย ที่ปรากฏเป็นโทนสีเข้มถึงดำสนิท
จากการตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมด้วยข้อมูลจากดาวเทียมไทยโชตพบว่า ปัจจุบัน ยังคงมีพื้นน้ำท่วมอยู่ประมาณ 140,000 ไร่ ส่วนใหญ่กระจายในที่ลุ่มต่ำซึ่งเป็นพื้นที่เกษตร และบริเวณริมแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำย่อย รวมถึงเส้นทางการจราจร
ด้านกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ถนน ทช.ประสบอุทกภัย 3 จังหวัด (ร้อยเอ็ด,อุบลราชธานี,ยโสธร) ซึ่งได้รับผลกระทบ จำนวน 8 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 1 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 7 สายทาง ดังนี้
1.จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 2 สายทาง ไม่สามารถผ่านได้
– รอ.4078 แยก ทล. 2046 – บ้านหนองผักตบ อ.เสลภูมิ
– รอ.4022 แยก ทล. 2043- บ้านกอกแก้ว อ.พนมไพร
2.จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 5 สายทาง ไม่สามารถผ่านได้
– อบ.4026 แยก ทล. 2050 – บ้านโอด – บ้านดงบัง อ.ดอนมดแดง
– อบ.3092 แยก ทล. 217 – บ้านโพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร (ผ่านได้)
– อบ.5061 ชุมชนโรงฆ่าสัตว์ (ถนนบูรพาใน อำเภอเมืองอุบลราชธานี – อำเภอวารินชำราบ ถนนวาสวิถี) อ.เมือง – วารินชำราบ
– อบ. 030 สะพานข้ามแม่น้ำชี อ.เขื่องใน
– อบ.039 สะพานลำน้ำเซบาย อ.เขื่องใน
3.จังหวัดยโสธร จำนวน 1 สายทาง ไม่สามารถผ่านได้
– ยส.4035 แยก ทล. 2351- บ้านราชมุนี อ.ค้อวัง,มหาชนะชัย
ทั้งนี้ หน่วยงานในพื้นที่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง พร้อมจัดชุดลาดตระเวน เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติสำหรับสายทางที่ระดับน้ำลดลงแล้ว ทช.ได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้อย่างปลอดภัย และจะดำเนินการสำรวจ ออกแบบ เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณฟื้นฟูฯ ให้เข้าสู่สภาพปกติต่อไปอย่างไรก็ตามประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง