ทองโลกพุ่งทะลุ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาทองไทย 48,000 บาท

ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สาเหตุมาจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มมากขึ้น  ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าดึงดูดใจในช่วงนี้

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังพุ่งขึ้นถึง 0.6% หลังจากอิสราเอลประกาศเปิดฉากโจมตีทางทหาร ซึ่งชาวปาเลสไตน์รายงานว่าอิสราเอลโจมตีทางอากาศหลายครั้งในหลายพื้นที่ของฉนวนกาซา

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลของสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข้อมูลยอดขายปลีกของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกุมภาพันธ์

แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายสินค้าที่อ่อนแอ แต่ก็ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการลดลงอย่างรุนแรง และข้อมูลดังกล่าวก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้มากนัก

อย่างไรก็ตาม สถาบัน นักลงทุน และนักเศรษฐศาสตร์ยังคงระมัดระวัง เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีแนวโน้มแย่ลง และมีสัญญาณของความเครียดทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางความเสี่ยงของสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นซึ่งจุดชนวนโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ

ซึ่งแนวโน้มที่มืดมนของทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกได้เน้นย้ำถึงบทบาทของทองคำแท่งในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ปีนี้ทองคำมีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 14%

และยังส่งผลให้ธนาคารใหญ่ๆ หลายแห่งได้มีการปรับมุมมองและเป้าหมายของราคาทองคำสำหรับปีนี้ให้สูงเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย

สำหรับราคาทองคำในไทยล่าสุดวันนี้ (18 พ.ค. 68) ปรับตัวขึ้นลงไปแล้ว 8 ครั้ง ราคาทองคำแท่งขายออกล่าสุดอยู่ที่ 47,900 บาทต่อบาททองคำ ส่วนรูปพรรณขายออกที่ 48,700 บาทต่อบาททองคำ

ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสถาบันในไทยก็คาดการณ์ปีนี้ทองคำมีลุ้นที่จะขึ้นไปที่ระดับ 50,000 บาทต่อบาททองคำ แต่ถึงแม้ราคาทองคำโลกจะพุ่งขึ้นมาเหนือ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์แล้ว แต่บาทที่แข็งค่าทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้ไม่มาก ปัจจุบันค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33 บาท/ดอลลาร์

ซึ่งการที่บาทแข็งค่าทำให้ราคาทองถูกลงเพราะเงินบาทที่แข็งขึ้นทำให้ใช้เงินบาทน้อยลงในการซื้อทองคำในตลาดโลก ขณะที่หากเงินบาทอ่อนค่าเงินไทยต้องใช้เงินบาทมากขึ้นทำให้ราคาทองแพงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในไทยไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทอย่างเดียวเท่านั้น ยังขึ้นอยู่กับราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่น เช่น อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ เงินเฟ้อ และความต้องการทองคำทั่วโลกด้วย