ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงต้นปีหน้า นี่คือคำบอกเล่าของ ‘เจอโรม พาวเวลล์’ ประธาน Fed ต่อนักลงทุนในตลาด
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนนักลงทุนจะไม่สนใจคำพูดของประธาน Fed เท่าไหร่นัก สะท้อนจากความผันผวนในตลาดหุ้น
เริ่มจากตลาดหุ้นเอเชียที่ยังคงปั่นป่วน โดยตลาดหุ้นออสเตรเลีย (AEST) ตลาดหุ้นเกาหลี (KST) และตลาดหุ้นฮ่องกง (HKT) ต่างปรับตัวขึ้น แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (JST) และจีนแผ่นดินใหญ่ (CST) กลับปรับตัวลง
ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) อายุ 2 ปี ดิ่งลงต่ำสุดนับตั้งเเต่เดือน มี.ค.ปีนี้
ส่วนสินทรัพย์ทางเลือกอย่าง ‘ทองคำ’ กลับปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 3.1% มาอยู่ที่ 2,135.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (34,350 บาทต่อบาททองคำ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้
บทวิเคราะห์จากฮั่วเซงเฮงระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 68.6 ดอลลาร์จากสัปดาห์ก่อน ปัจจัยหนุนมาจากดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง และ Bond Yield สหรัฐลดลง จากคาดการณ์ Fed ยุติการขึ้นดอกเบี้ย
ขณะที่บิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.82% อยู่ที่ 41,000 ดอลลาร์ (ราว 1.4ล้านบาท) โดย Beincrypto เผยว่า ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวตามโมเมนตัมของตลาดซึ่งได้รับแรงหนุนจากการอนุมัติกองทุน Bitcoin ETF
‘ไคลี่ รอดดา’ (Kyle Rodda) นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Capital.com ในเมลเบิร์น เผยว่า ราคาทองคำและบิตคอยน์พุ่งขึ้นสวนทางค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
แม้นักวิเคราะห์จะคาดการณ์ว่า Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในเดือน มี.ค.ปีหน้า (2567) และคาดว่าจะผ่อนนโยบายการเงินอย่างเต็มที่ภายในเดือน ธ.ค.ปีเดียวกันก็ตาม
ด้าน ‘เชน โอลิเวอร์’ (Shane Oliver) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ AMP Ltd. ในซิดนีย์ เผยว่า ตลาดหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงสิ้นปีนี้และต้นปีหน้า อานิสงส์จากเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจำเป็นต้องจับตาดูรายงานสำคัญด้านเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ
-
-
-
-
- อัตราเงินเฟ้อของจีน
- การค้าจีน
- ทุนสำรองระหว่างประเทศของจีน
- ข่าวสาร China Evergrande Group ชนะข้อตกลงการปรับโครงสร้างกับเจ้าหนี้
- ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
- ยอดค้าปลีก GDP ยุโรป และตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ
-
-
-
ประกอบกับติดตามราคาน้ำมันที่ปัจจุบันยังคงอยู่ในช่วงผันผวนระหว่างกำไรหรือขาดทุน โดยปัจจัยหลักมาจากความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
และแน่นอนว่ารายงานเหล่านี้มีผลต่อการผันผวนของราคาสินทรัพย์ต่างๆ นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามรายงานเศรษฐกิจเพื่อประกอบการลงทุนในช่วงนี้
ที่มา