SHARE

คัดลอกแล้ว

สปสช. จับมือ สภาองค์กรของผู้บริโภค แก้ปัญหาผู้ใช้สิทธิบัตรทองถูกหน่วยบริการเรียกเก็บค่ารักษา ย้ำเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ขัดหลักการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เปิดข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี มีกรณีร้องเรียน 3,329 เรื่อง รวมเป็นเงินถูกเรียกเก็บกว่า 35.7 ล้านบาท ย้ำใช้สิทธิบัตรทองแต่ถูกเรียกเก็บค่ารักษาอย่าเพิ่งจ่าย ให้โทรมาที่สายด่วน สปสช. 1330  

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสภาองค์กรของผู้บริโภค จับมือแก้ปัญหาประชาชนสิทธิบัตรทองถูกหน่วยบริการเรียกเก็บค่ารักษา “ถูกเรียกเก็บเพิ่ม ไม่ต้องจ่าย สิทธิหลักประกันสุขภาพของประชาชน” เพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง 30 บาท” ในกรณีที่เป็นการเข้ารับบริการภายใต้สิทธิประโยชน์และขอบเขตบริการ หน่วยบริการไม่สามารถเรียกเก็บค่าบริการได้

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภคและอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมการมีส่วนร่วม สปสช. กล่าวว่า บริการสุขภาพเป็นหนึ่งในข้อร้องเรียนที่สภาฯ ได้รับมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทที่มีกรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีสิทธิที่จะเรียกเก็บ หรือเรียกเก็บเกินกว่าอัตราที่กำหนด (Extra Billing) รวมอยู่ด้วย โดยเฉพาะกรณีเรียกเก็บค่าบริการจากบริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน เฉพาะข้อมูลปี 2565 มีจำนวนสูงถึง 48 เรื่อง

คณะอนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ สภาฯ จึงจัดทำแผนขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา ทั้งการถูกเรียกเก็บเงินจากใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ บริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ตรวจทางห้องปฏิบัติการและเวชภัณฑ์ บริการนอกเวลาราชการ และบริการอื่นที่เป็นสิทธิประโชน์ เนื่องจากเป็นการเรียกเก็บเงินทั้งที่เป็นสิทธิประโยชน์ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 หน่วยบริการไม่สามารถเก็บค่าบริการได้ เพราะจะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและก่อวิกฤตทางการเงินให้ผู้ป่วย

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 65 สภาฯ มีหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. ขอให้จัดการปัญหานี้ และควรเป็นการแก้ไขและป้องกันปัญหาในเชิงระบบ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีซ้ำรอยและให้เป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกันของหน่วยบริการในระบบบัตรทอง 30 บาท

“มีหลายกรณีที่ร้องเรียน เช่น กรณีหญิงตั้งครรภ์เข้ารับการตรวจครรภ์ที่ รพ.แห่งหนึ่ง โดย รพ.ต้นสังกัดส่งต่อ ซึ่งแพทย์ตรวจพบปากมดลูกเปิด ต้องให้รักษาตัวใน รพ. แต่กลับถูกเรียกเก็บค่ารักษาเป็นจำนวน 12,595.50 บาท ทั้งที่ รพ.สามารถเบิกจ่ายจาก สปสช.ได้ ด้วยเป็นสิทธิส่งต่อ และกรณีหญิงอายุ 74 ปี สิทธิบัตรทองแต่มีสิทธิย่อยคนพิการ ถูกเรียกเก็บค่าบริการ 42,529.25 บาท ทั้งที่เป็นผู้มีสิทธิตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องการใช้สิทธิเข้ารับบริการสาธารณสุขของทหารผ่านศึกและคนพิการ พ.ศ. 2556 ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขมีคำสั่งให้คืนเงินผู้ป่วย

นอกจากนี้ ยังมีกรณีหญิงอายุ 72 ปี เข้ารักษาฉุกเฉินด้วยอาการปวดหลังมาก หายใจไม่สะดวก จุกแน่นลิ้นปี่และใต้ราวนมใน รพ.แห่งหนึ่ง ต่อมาแพทย์วินิจฉัยพบเป็นภาวะนิ่วในถุงน้ำดี เบื้องต้นผู้ร้องเรียนแจ้งใช้สิทธิชำระเงินเอง เนื่องจากไม่ทราบว่าสามารถใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินได้ และทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไม่ได้ให้ข้อมูลว่าสามารถใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินได้ แต่ต่อมาเมื่อผู้ป่วยทราบว่าสามารถใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินได้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะขอใช้สิทธิ แต่เจ้าหน้าที่ รพ. ไม่แก้ไขเอกสารให้ โดยให้เซ็นปฏิเสธใช้สิทธิ ถูกเรียกเก็บค่ารักษาจำนวน 56,039.50 บาท เมื่อเรื่องเข้าสู่การคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขมีคำสั่งให้คืนเงินผู้ป่วยเนื่องจากกรณีนี้สามารถใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินที่มีสิทธิเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลดังกล่าวได้” เลขาธิการสภาฯ กล่าว

ด้าน ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ปี 2561-2565 มีประชาชนร้องเรียนกรณีถูกเรียกเก็บเงินค่ารักษา (Extra billing) เข้ามาที่ สปสช. 3,329 เรื่อง รวมเป็นเงิน 35,700,006 บาท เมื่อจำแนกข้อมูลการใช้สิทธิพบว่า เป็นกรณีเข้ารักษาหน่วยบริการตามสิทธิหรือส่งต่อมากที่สุด 1,526 เรื่อง ใช้สิทธิส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 598 เรื่อง สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉิน 563 เรื่อง สิทธิประสบอุบัติเหตุ 385 เรื่อง สิทธิเด็กแรกเกิด/สิทธิว่าง 156 เรื่อง และสิทธิผู้พิการ/ทหารผ่านศึก 101 เรื่อง

โดยโรคและอาการที่ถูกเรียกเก็บเงินมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ โรคระบบย่อยอาหาร/โรคในช่องปาก บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ติดเชื้อโควิด ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ และระบบทางเดินหายใจ ขณะที่ 5 รายการแรกของบริการที่ถูกเรียกเก็บมากที่สุด คือ บริการรักษาพยาบาล/ยาในบัญชี/ทำแผล, บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค, ตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์และพยาธิวิทยา, อวัยวะเทียมหรืออุปกรณ์เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาและค่าบริการอื่นๆ ส่วนเหตุผลของการถูกเรียกเก็บค่าบริการ เช่น เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นนโยบายของ รพ., บริการที่ใช้เบิกไม่ได้, ไม่ทราบว่าใช้สิทธิการรักษาได้, ผู้ร้องเรียนไม่แจ้งใช้สิทธิ ไม่พกบัตรประชาชนและยานอกบัญชี เป็นต้น

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวว่า ปัญหานี้ สปสช. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาได้แก้ไขปัญหาโดยนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด สปสช. และมอบให้คณะอนุกรรมการฯ ชุดที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ทั้งคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารกองทุน คณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิและการมีส่วนร่วม และคณะอนุกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสร้างหลักประกันสุขภาพของทุกภาคส่วน

รวมถึงการพิจารณาโดยคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน โดยปีที่ผ่านมาได้ออกประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข พ.ศ. 2564 เพื่อปรับปรุงประกาศฉบับเดิม ให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิในการรับบริการสาธารณสุขว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพิ่มขึ้น ครอบคลุมสิทธิประโยชน์บริการ 13 รายการที่เบิกจ่ายค่าบริการจากกองทุนบัตรทองที่หน่วยบริการไม่มีสิทธิเรียกเก็บเพิ่มได้

พร้อมจัดทำ “คู่มือ Extra Billing อะไรทำได้ ทำไม่ได้ เพื่อสื่อสารไปยังหน่วยบริการในระบบให้เกิดความชัดเจน พร้อมกับปี 2566 ได้มีการจัดทำแผน กำกับติดตาม พร้อมกำหนดตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของการมีกลไกเฝ้าระวังติดตามและแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จตามเป้าหมายต่อไป

“ตามกฎหมายกองทุนบัตรทอง เรื่องการเรียกเก็บค่ารักษาจากประชาชนที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือ Extra billing ไม่สามารถให้หน่วยบริการทำได้ เพราะจะทำให้ประชาชนประสบปัญหาหรือเกิดอุปสรรคต่อการเข้ารับบริการสาธารณสุข ทั้งยังอาจก่อให้เกิดวิกฤตทางการเงินจากค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้ป่วยและครอบครัว แม้แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง เยอรมัน ญี่ปุ่น เป็นต้น ได้กำหนดข้อห้ามไม่ให้หน่วยบริการเรียบเก็บ Extra billing ในระบบหลักประกันสุขภาพเช่นกัน” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

ทั้งนี้ ขอย้ำว่าสำหรับประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง ทุกครั้งที่ท่านไปใช้บริการตามสิทธิขอให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วยทุกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตนในการเข้ารับการรักษาหรือใช้บริการ กรณีเด็กเล็กที่ยังไม่มีบัตรประชาชนให้ใช้สำเนาสูติบัตรหรือใบเกิดแทน

หากผู้มีสิทธิบัตรทองหรือบัตร 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ประสบปัญหาถูกสถานพยาบาลเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลขณะใช้บริการตามสิทธิบัตรทอง อย่าเพิ่งจ่ายค่ารักษา ขอให้โทร.มาที่สายด่วน สปสช. 1330 เจ้าหน้าที่จะให้ข้อมูลและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ภาพจาก : สปสช.

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า