จับตา 3 ก.พ.นี้ เบิกความครั้งแรก คดี “เหมืองทองคำอัครา” ที่สิงคโปร์ ตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการ หลังถูกสั่งปิดแล้วกว่า 3 ปี
เมื่อเวลา 12.17 น. วันนี้ (29 ม.ค.63) นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผยกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ออนไลน์ ถึงความคืบหน้ากำหนดการพิจารณาคดีตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างราชอาณาจักรไทย กับ บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ในจังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) (กรณีที่มีคำสั่งให้เหมืองแร่ทองคำชาตรียุติการประกอบกิจการในปี 2559) โดยระบุว่า กระบวนการดังกล่าว ยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม คือ ในวันที่ 3 ก.พ.2563 ณ ประเทศสิงคโปร์ หลังจากถูกเลื่อนการการพิจารณาคดี ที่ฮ่องกง เมื่อเดือน พ.ย.2562
อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เปิดเผยอีกว่า วันที่ 3 ก.พ.นี้ ถือเป็นการเข้าสู่กระบวนการเบิกความครั้งแรก โดยอนุญาโตตุลาการจะใช้เวลาพิจารณา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 – 12 ก.พ.2563 โดยได้เตรียมพยานหลักฐานอย่างเต็มที่ในการต่อสู้คดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะส่งผลต่อรูปคดี
ด้าน แหล่งข่าวจากบริษัท อัคราฯ กล่าวว่า ยังคงพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลไทย โดยในระหว่างนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการขอเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการปฏิบัติเพื่อหาทางออกร่วมกัน ส่วนการต่อสู้คดีนั้นได้เตรียมพยานไว้พร้อมแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เช่นกัน
สำหรับเหมืองแร่ “ชาตรี” หรือ เหมืองทองคำอัครา เปิดให้สัมปทานขุดเหมืองบริเวณรอยต่อของ จ.พิจิตร, จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ ในปี พ.ศ.2543 ยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย โดยบริษัท คิงส์เกท คอนโซลิเดเต็ด จำกัด จากประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้ชนะ ได้สิทธิสัมปทาน พร้อมมอบหมายให้บริษัทลูกในประเทศไทย บริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด เป็นผู้ดำเนินกิจการการขุดเหมือง
หลังขุดทองกันได้ 7 ปี ในปี พ.ศ.2550 มีกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบออกมาร้องเรียน และความขัดแย้งในพื้นที่ เพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มชาวบ้านมีทั้งฝ่ายสนับสนุนเหมืองทองคำ และฝ่ายที่ต่อต้านอยากให้เหมืองยุติ จนในที่สุด วันที่ 14 ธ.ค. 2559 ด้วยคำสั่งของ คสช. ที่ 72/2559 ประกาศว่า “ผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำ จะต้องระงับการประกอบกิจการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป”
“ส่วนคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ต้องระงับการอนุญาตให้สำรวจ หรือทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงระงับการต่ออายุสัมปทานเหมืองแร่ทองคำ นอกจากนั้น ผู้ประกอบการ ต้องฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ ตามที่กำหนดไว้ในรายการวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม”
ถือเป็นการใช้ มาตรา 44 ระงับข้อขัดแย้ง ซึ่งก็มีเสียงวิจารณ์ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- นัดใหม่ 3 ก.พ.63 ที่สิงคโปร์ ขึ้นศาลคดี “เหมืองทองอัครา” คิงส์เกตยันยังพร้อมเจรจาไทย
- เลื่อนไต่สวนคดีเหมืองทองอัครา เลี่ยงเหตุประท้วงในฮ่องกง
- สรุป ที่มาที่ไป แบบเข้าใจง่าย “เหมืองทองคำอัครา” คดีสะเทือนรัฐบาล
- ครม.ไม่มีมติเลือกทางออกปมเหมืองทอง ให้ ก.อุตสาหกรรมพิจารณา
- อัคราฯ บริษัทลูก Kingsgate ชี้แจง เหมืองทองโดนปิด ทั้งที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ
- ย้อนอ่านคำสั่งหัวหน้า คสช. 72/2559 “ยาแรง” แก้ปัญหาเหมืองแร่ทองคำอัครา