SHARE

คัดลอกแล้ว

ไต้ฝุ่น ‘โคนี’ พายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในปีนี้ พัดขึ้นฝั่งในภูมิภาคบีโคลทางใต้สุดของเกาะลูซอน เข้าถล่มฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา

วันที่ 1 พ.ย. 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ระบุว่าไต้ฝุ่น ‘โคนี’ พายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในปีนี้สำหรับประเทศฟิลิปปินส์ ได้พัดขึ้นฝั่งที่ภูมิภาคบีโคล (Bicol) ทางใต้สุดของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (1 พ.ย. 2563)

สำนักงานบริการด้านบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ (PAGASA) รายงานว่าไต้ฝุ่นโคนีซึ่งทวีความรุนแรงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมื่อเวลา 02.00 น. มีความเร็วลมสูงสุด 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงสุดที่ 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะพัดถล่มเมืองบาโต (Bato) ในจังหวัดคาตันดัวเนส ซึ่งเป็นเกาะทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลูซอน เมื่อเวลาประมาณ 04:50 น. พร้อมระบุว่าพายุโคนีกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม มีการอพยพประชาชนในภูมิภาคบีโคลออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้วเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดอุทกภัยเป็นวงกว้าง รวมถึงเหตุดินถล่ม และมีคลื่นสูงถึง 3 เมตร

หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์สั่งปิดท่าเรือหลายสิบแห่งทำให้มีนักท่องเที่ยวติดค้าง ส่วนเจ้าหน้าที่สนามบินประกาศเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ต.ค. 2563) ว่าสนามบินนานาชาติของกรุงมะนิลาจะปิดให้บริการนาน 24 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2563

พายุไต้ฝุ่นโคนี ซึ่งเป็นพายุหมุนหรือพายุไซโคลนลูกที่ 18 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ จะพัดผ่านจังหวัดเกซอนและพื้นที่อื่นๆ ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา และอาจอ่อนกำลังลงเมื่อพัดเข้าใกล้เมืองหลวง ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ทะเลจีนใต้ในช่วงเช้าวันที่ 2 พ.ย. 2563 โดยกรุงมะนิลาได้ปลดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่อยู่ตามถนน เนื่องจากเกรงว่าลมแรงอาจพัดพาให้ป้ายล้มลงและทำให้ผู้คนบาดเจ็บ

ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่นโคนีพัดถล่มใกล้กับภูมิภาคของฟิลิปปินส์ที่เคยถูกไต้ฝุ่นโมลาเบซัดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ทั้งยังทำลายสิ่งก่อสร้างและพืชผล

พายุไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อนมักพัดถล่มฟิลิปปินส์ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนธันวาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยรายและสร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์

ประเทศฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “แนววงแหวนแห่งไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิก จึงเป็นหนึ่งในประเทศที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟระเบิดหรือแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง รวมถึงต้องเจอพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก นำมาซึ่งเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม โดยระหว่างปี 2010-2019 ฟิลิปปินส์สูญเสียเงินเนื่องจากภัยธรรมชาติมากถึง 4.63 แสนล้านเปโซ (ประมาณ 2.98 แสนล้านบาท)

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า