SHARE

คัดลอกแล้ว

การผลักดันนโยบายเปิดเสรีบริการรถส่วนบุคคลร่วมเดินทาง (Ride-Hailing) เพื่อส่งเสริมให้มีการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้ให้บริการเป็นรถสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างถูกกฎหมาย เป็นหนึ่งในประเด็นร้อนแรงด้านคมนาคม ที่ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งในมุมของผู้โดยสารหรือผู้ใช้บริการนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าแอปเรียกรถได้เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและช่วยตอบสนองความต้องการการเดินทางให้กับคนในยุคปัจจุบัน ทั้งในด้านความสะดวกสบาย มาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงราคาที่เข้าถึง จนทำให้บริการดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีบางคนที่แสดงความเป็นกังวลถึงประเด็นที่เทคโนโลยีหรือบริการรูปแบบใหม่เหล่านี้จะเข้ามาแย่งอาชีพและทำให้คนขับแท็กซี่ตกงาน  แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีคนขับแท็กซี่นับหลายหมื่นรายที่หันมาใช้แอปพลิเคชันเรียกรถเพื่อรับผู้โดยสารในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นถึงประโยชน์ในด้านต่างๆ และพร้อมปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

จิรภัทร โสภาลัย ประธานเครือข่ายชมรมผู้ขับแท็กซี่ 4.0

นายจิรภัทร โสภาลัย ประธานเครือข่ายชมรมผู้ขับแท็กซี่ 4.0 กล่าวว่า “แต่ก่อนเราต้องขับรถไปเรื่อยๆ รอให้ผู้โดยสารเรียก ทำให้สิ้นเปลืองต้นทุนค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน รายได้ในแต่ละวันก็ไม่แน่นอน แต่ปัจจุบันพอมีเทคโนโลยีเข้ามา การใช้แอปเรียกรถทำให้คนขับแท็กซี่อย่างเรามีช่องทางในการหารายได้เพิ่มมากขึ้น สามารถเลือกไปในพื้นที่ที่มีลูกค้าอยู่หนาแน่นได้ เพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกดเรียก จากที่สอบถามเพื่อนๆ สมาชิกในเครือข่ายที่ใช้แอปเรียกรถ แทบจะทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น หากเราให้บริการดี ลูกค้าให้คะแนนดี เรายังมีโอกาสได้โบนัสและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพิ่มขึ้นจากบริษัทผู้ให้บริการแอปด้วย  ถ้าขยัน มีมานะอดทน และมีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน ผมการันตีว่าคนชับแท็กซี่จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 – 6 หมื่นบาทต่อเดือน”

 

“ผมขับแท็กซี่มา 20 กว่าปี เมื่อก่อนอยากขับก็ขับ รับผู้โดยสารบ้างไม่รับบ้าง พอเริ่มหันมาใช้แอปเรียกรถทำให้ผมเห็นจุดบกพร่องในด้านการบริการของตัวเอง ยิ่งภายหลังได้รับการอบรม เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เรียนรู้ความต้องการของลูกค้า และปฏิบัติตามกฎระเบียบที่บริษัทผู้ให้บริการแอปกำหนดไว้ ซึ่งส่วนใหญ่สอดคล้องกับระเบียบของกรมการขนส่งทางบกอยู่แล้ว มันเปลี่ยนทัศนคติของผมไปเลย ทำให้เรากลายเป็นคนอยากให้บริการ เราไปบอกต่อกับเพื่อนๆ ในเครือข่ายว่า นี่แหละคือสิ่งที่อาชีพเราจะต้องทำและควรทำมานานแล้ว เราปล่อยปละละเลย หลายค่ายเอาผู้โดยสารไป จะไปว่าเขามาแย่งผู้โดยสารได้อย่างไร ในเมื่อเราเป็นคนไล่ผู้โดยสารไปเอง สู้มาปรับตัว กลับมาทำรถให้รถสะอาด พูดจาสุภาพกับผู้โดยสาร เขาก็หันมาใช้บริการแท็กซี่มากขึ้น” นายจิรภัทร กล่าวเสริม

กมลาสน์ กุลบันลือพิชญ์ ประธานชมรมแท็กซี่ไทยพัฒนา

สอดคล้องกับความเห็นของ นายกมลาสน์ กุลบันลือพิชญ์ ประธานชมรมแท็กซี่ไทยพัฒนา ที่กล่าวว่า “นอกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากทั้งค่าโดยสาร โบนัส เงินจูงใจและสิทธิประโยชน์อื่นๆ แล้ว การใช้แอปเรียกรถทำให้เรามี statement ที่ช่วยรับรองรายได้ของคนขับแท็กซี่ ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ เชื่อถือและให้การยอมรับ ทำให้คนขับหลายคนที่เคยเช่ารถและอยากมีรถเป็นของตัวเองสามารถกู้เงินเพื่อซื้อรถเป็นของตัวเองได้”

จากมุมมองของคนขับมืออาชีพที่มีต่อ “แอปเรียกรถ” นอกจากมีช่องทางในการหารายได้เพิ่มมากขึ้น ในแต่ละวันแล้ว ยังช่วยให้คุณภาพชีวิตในการทำงานดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งได้สะท้อนผ่านข้อดี 5 ด้าน ดังนี้

1.เพิ่มช่องทางในการหารายได้

แอปเรียกรถช่วยทำให้คนขับแท็กซี่มีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะนอกจากจะรับผู้โดยสารที่โบกเรียกตามท้องถนนแล้ว ยังสามารถรับงานผ่านทางแอปพลิเคชันได้อีกทางด้วย ถือเป็นการเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ของคนขับ ทั้งยังช่วยลดเวลาในการตีรถเปล่าได้ถึง 30% ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาวนหาผู้โดยสาร ทั้งนี้ ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังได้เผยผลวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้โดยระบุว่า 99% ของคนขับแท็กซี่ยืนยันว่าแอปเรียกรถช่วยให้เข้าถึงลูกค้าและทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น

2.เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีหรือผู้ให้บริการแอปพลิเคชันต่างให้ความสำคัญกับการลงทุนและการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัย ซึ่งไม่เพียงจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ แต่ยังทำให้คนขับทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การนำเอาเทคโนโลยี AI มาช่วยจับคู่ตำแหน่งของคนขับกับจุดหมายปลายทางของผู้โดยสาร ทำให้คนขับแท็กซี่ทราบจุดรับ-ส่งล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดปัญหาการโบกแล้วไม่จอดรับหรือการปฏิเสธผู้โดยสารอย่างเป็นรูปธรรม หรือการนำระบบ GPS มาใช้ ซึ่งช่วยแนะนำเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดให้กับคนขับ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัด

นอกจากนี้ แอปเรียกรถอย่างแกร็บยังมีฟังก์ชั่นแปลภาษาที่เรียกว่า “แกร็บแชต” (Grab Chat) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคนขับในการสื่อสารกับผู้โดยสารชาวต่างชาติได้อย่างราบรื่น ไร้ปัญหา ช่วยลดอุปสรรคในด้านการสื่อสาร ทั้งยังเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วย

3.เพิ่มความอุ่นใจด้านความปลอดภัย

ไม่ใช่แค่ผู้โดยสารเท่านั้นที่ต้องการความปลอดภัยในการเดินทาง คนขับแท็กซี่เองก็เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ต้องขับรถไปส่งผู้โดยสารในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย สถานที่เปลี่ยว หรือในเวลาค่ำคืน ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลในด้านสวัสดิภาพความปลอดภัยหรือการก่ออาชญากรรม แต่ประเด็นเหล่านี้หมดไปเมื่อมีแอปเรียกรถซึ่งมีเทคโนโลยีและมาตรฐานด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับคนขับ เนื่องจากผู้ให้บริการแอปพลิเคชันมีเทคโนโลยีการยืนยันตัวตน (Biometric Authentication) ของทั้งคนขับและผู้โดยสาร จึงสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทันทีหากเกิดเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ ทั้งยังมีฟีเจอร์ Share My Ride ที่คนขับเองสามารถแชร์ข้อมูลการเดินทางในทุกเที่ยวรับ-ส่งให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวรับทราบได้ตลอดว่าอยู่ตรงไหนแล้ว

ในกรณีที่มีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ คนขับยังสามารถติดต่อ Call Center ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือในกรณีฉุกเฉินก็มีปุ่ม SOS ให้สามารถติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที นอกจากนี้ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ แอปเรียกรถอย่างแกร็บยังได้ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่ให้ความคุ้มครองกับคนขับในทุกเที่ยวการเดินทางเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ. คุ้มครองและประกันภัยบุคคลที่ 3 โดยมีวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาท รวมถึงทุนประกันชีวิตสูงสุดถึง 200,000 บาทด้วย

4.เพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน

ประโยชน์อีกประการที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน คือ แอปเรียกรถช่วยให้คนขับแท็กซี่ ซึ่งเป็นกลุ่ม Unbanked หรือผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินพื้นฐานจากสถาบันการเงินในระบบ อย่างบริการโอนเงิน ชำระเงิน ฝากเงิน และกู้เงิน มีโอกาสเข้าถึงบริการดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากคนขับจะได้รับเอกสารรับรองทางการเงิน (Income statement) จากบริษัทผู้ให้บริการแอป ซึ่งได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงิน ทำให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการสมัครบริการสินเชื่อเงินสด (Digital lending) ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้นอกระบบถึง 30 เท่า นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้คนขับแท็กซี่สามารถกู้ซื้อสินทรัพย์ในระยะยาวอย่างรถยนต์ได้ ทำให้การมีรถแท็กซี่เป็นของตัวเองสักคันไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป

5.เพิ่มศักยภาพและมาตรฐานการให้บริการ

การเข้ามาของเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างแอปเรียกรถทำให้คนขับแท็กซี่ต้องปรับตัวเพื่อพัฒนาความเข้าใจและศักยภาพเพื่อให้สามารถก้าวทันยุคดิจิทัลและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ถือเป็นโอกาสในการเรียนรู้และฝึกฝนพัฒนาตนเอง โดยแอปเรียกรถอย่างแกร็บยังมีการจัดอบรมต่างๆ ให้กับคนขับอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการให้บริการ การขับขี่ปลอดภัย การดูแลสภาพรถยนต์ หรือแม้แต่คอร์สภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดหลักปฏิบัติและจรรยาบรรณของคนขับ รวมทั้งมีระบบควบคุมคุณภาพการให้บริการของคนขับแบบเรียลไทม์ ซึ่งครอบคลุมทั้งเรื่องประสิทธิภาพการรับงาน และการให้คะแนนจากผู้โดยสารเพื่อประเมินผลการทำงาน ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้สูงขึ้น

เมื่อได้ฟังเสียงสะท้อนจากคนขับมืออาชีพถึงประโยชน์ของแอปเรียกรถที่มีต่อวงการแท็กซี่อย่างนี้แล้ว ยิ่งช่วยตอกย้ำว่า ทั้งสองธุรกิจไม่ได้ยืนอยู่คนละมุมอย่างที่หลายคนกังวล แต่กลับส่งเสริมและเกื้อกูลกันเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและช่วยยกระดับมาตรฐานการคมนาคมขนส่งของไทยด้วย แล้วแบบนี้จะบอกว่าแอปเรียกรถอย่างแกร็บจะไม่สามารถอยู่ร่วมกับแท็กซี่ได้อย่างไร ?

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า