เดินหน้าแก้ระเบียบให้ Grab ถูกกฎหมาย คาดมีผล มี.ค. 63

วันที่ 6 ก.ย. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานพิจารณาแนวทางการกำหนดรถส่วนบุคคลที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นให้เป็นรถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย ครั้งที่ 1/2562 โดยมีผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบกและผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเข้าร่วม

สำหรับแนวทางที่วางไว้คือ ให้บริการเป็นไปอย่างเหมาะสมภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมาย ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบขนส่งสาธารณะเดิมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ขณะเดียวกันต้องมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะรูปแบบเดิม

คณะทำงานจะพิจารณาแนวทาง กำหนดขั้นตอน วิธีการ รายงานผลการดำเนินการต่อกระทรวงคมนาคมภายในระยะเวลา 30 วัน

โดยแนวทางการดำเนินการ ที่วางไว้คือ
1) คุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาต เช่น การกำหนดให้เป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย
2) คุณสมบัติตัวรถ เช่น การกำหนดอายุการใช้งานของรถ การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย (GPS) การตรวจสภาพรถ
3) ผู้ขับรถ การกำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ

ภาพ Grab.com

4) ด้านการประกอบการ อาทิ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นต้องขอรับใบอนุญาตประกอบการ ต้องมีสถานที่จอดรถรับคนโดยสารโดยไม่ใช่สถานที่เดียวกับรถแท็กซี่สาธารณะ การให้บริการต้องผ่านแอพพลิเคชั่นเท่านั้น (ไม่วิ่งหาผู้โดยสารทั่วไปเหมือนแท็กซี่สาธารณะ) และต้องส่งวิธีคิดอัตราค่าโดยสารให้กรมการขนส่งทางบก เป็นต้น
5) มาตรการในการกำกับดูแล อาทิ บริษัทต้องมีระบบการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขับขี่ มีระบบประเมินผู้ขับขี่ ต้องแสดงบทกำหนดโทษกรณีที่ผู้ขับขี่กระทำผิดเงื่อนไข ระบบการรับเรื่องร้องเรียนโดยมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบตรวจสอบยืนยันอัตลักษณ์ของผู้ขับขี่ให้ตรงตามที่แจ้งไว้ ระบบแสดงเส้นทางและราคาล่วงหน้าอย่างชัดเจน รวมถึงการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของผู้โดยสาร เป็นต้น

ขณะที่ ข่าวสดออนไลน์ รายงานด้วยว่า คณะกรรมการจะสรุปหลักเกณฑ์ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย. ก่อนส่งเรื่องไปให้กรมการขนส่งทางบก ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรงแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ และเสนอกลับมากระทรวงคมนาคมภายในเดือน ต.ค. จากนั้นจะเสนอให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาในช่วงสิ้นปี 2562 และเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างกฎหมายส่งกลับมายังกระทรวง เพื่อประกาศเป็นกฎกระทรวง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือน มี.ค. 63

ด้าน โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า จะเริ่มจาก แกร็บ แท็กซี่ก่อน แล้วจึงจะเปิดให้ แกร็บ ไบค์ต่อไป