เศรษฐกิจซบเซา เงินเฟ้อพุ่ง แต่ ‘นาฬิกาหรู’ ขายดี แกรนด์ ไซโก เปิดตัว 3 รุ่นใหม่ ขายในไทยเท่านั้น

ตั้งแต่โควิดระบาด สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจนซบเซาต่อเนื่อง เงินเฟ้อพุ่ง กำลังซื้อผู้บริโภคหดหาย

แต่ถึงอย่างนั้น สินค้าหรูหราลักชัวรีกลับเป็นสินค้าที่ขายดีมากในช่วงโควิด รวมไปถึง ‘นาฬิกาหรู’ ไม่ว่าจะมือ 1 หรือมือ 2

และถึงแม้ช่วงไม่กี่เดือนมานี้ราคาจะร่วงลงมาจากผลกระทบของตลาดหุ้นและตลาดคริปโตที่ดิ่งลงอย่างหนัก แต่ถ้าเทียบกับก่อนโควิด ราคานาฬิกาหรูในตอนนี้ก็ยังสูงกว่าก่อนโควิดอยู่ดี

ที่น่าสนใจคือ ช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา นาฬิกาหรูหลายแบรนด์ต่างตบเท้าออกรุ่นใหม่กันแบบต่อเนื่อง รวมถึงล่าสุดคือ ‘แกรนด์ ไซโก’ (Grand Seiko) แบรนด์นาฬิการะดับลักชัวรีจากประเทศญี่ปุ่น ก็เปิดตัวนาฬิกาหรูลิมิเต็ด อิดิชั่น 3 รุ่นที่วางขายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ในราคาเริ่มต้นที่ 259,900 บาท

แกรนด์ ไซโก บอกว่า สาเหตุที่ทำให้นาฬิกาหรูยังขายดีและได้รับความสนใจ เป็นเพราะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสินค้าพรีเมี่ยมยังมีกำลังอยู่อาจจะได้รับผลกระทบน้อย และช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ จึงช้อปของหรูที่เมืองไทยมากขึ้น

แกรนด์ ไซโก ยังมองว่าตลาดนาฬิกาลัวชัวรีจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะคนไทยกลับมาช้อปสินค้ากลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งเพราะความชอบในแบรนด์และคุณภาพ ประกอบกับถือเป็นการลงทุนอีกอย่างหนึ่งในปัจจุบัน

สำหรับการเปิดตัว Grand Seiko Limited Edition for Thailand นี้เป็นครั้งแรกของ Grand Seiko ที่ผลิตรุ่นพิเศษเพื่อวางจำหน่ายเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น

โดยนาฬิกา ลิมิเต็ด อิดิชั่น 3 รุ่นไฮไลต์ที่แกรนด์เป็นครั้งแรก ได้แก่

-รุ่น ‘Koke-iro’ (โคเค-อิโระ) หรือ Green Moss ขับเคลื่อนด้วยกลไก Hi-beat เดินด้วยความถี่ 36,000 รอบต่อชั่วโมง หน้าปัดแบบ Kiratsuri สื่อถึงป่าอันอุดมสมบูรณ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ตกกระทบลงบนมอสที่ขึ้นปกคลุมพื้นป่าชิซูคุอิชิ (Shizukishi) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Grand Seiko Studio Shizukuishi สตูดิโอที่ซึ่งนาฬิกาแกรนด์ ไซโก กลไก mechanical ทุกเรือนที่ถูกรังสรรค์ขึ้น

-รุ่น ‘Nami’ (นามิ) หรือ Suwa Wave เป็นเรือนบอกเวลาส่งต่อความงดงามของผิวน้ำ ถ่ายทอดออกมาเป็นหน้าปัดลวดลายคลื่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทะเลสาปซุวะ ที่แสงอาทิตย์ตกกระทบในยามเย็น ถ่ายทอดความงามของธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจ

-รุ่น ‘Hikari’ (ฮิคาริ) หรือ Golden Light มีรูปแบบหน้าปัดอันคุ้นตา Iwate Dial ถูกนำมาตีความใหม่ เพื่อใช้พรรณนาความงดงามของแสงอาทิตย์สีทองสุดท้ายในยามเย็นที่ลอดผ่านปุยเมฆ กระทบบนผิวน้ำ เหนือทะเลสาบซุวะในช่วงพลบค่ำ

ทั้งนี้ แกรนด์ ไซโก ทั้ง 3 รุ่นเป็นคอลเลกชั่น ลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตเพียงรุ่นละ 100 เรือนเท่านั้น โดยฝาหลังระบุ ‘ 1 of 100’ รุ่น SBGH303 (Koke-iro) ราคา 259,900 บาท รุ่น SBGY021 (Nami) ราคา 345,900 บาท และรุ่น SBGY025 (Hikari) ราคา 345,900บาท

มร.อากิระ ซากาอิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก ประเทศไทย กล่าวว่า การสร้างสรรค์เรือนนาฬิกาด้วยความปราณีตละเอียดอ่อน สื่อถึงอัตลักษณ์อันเต็มเปี่ยมของความเป็นญี่ปุ่นที่มีความตั้งใจถ่ายทอดความงามของธรรมชาติให้ตราตรึงอยู่ในเรือนเวลาสุดพิเศษ แทนคำขอบคุณจากใจที่คนไทยให้การสนับสนุนแกรนด์ ไซโกอย่างดีเสมอมา