วันที่ 1 เม.ย.63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่าการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลกของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นวิกฤตความท้าทายครั้งใหญ่หลวงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากโรคระบาดนี้เป็นภัยคุกคามทุกคน
โดยนายกูเตอร์เรสกล่าวขณะนำเสนอรายงานของสหประชาชาติว่า “โรคโควิด-19 เป็นภัยต่อทุกๆ คนบนโลก และส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่จะทำให้เกิดภาวะถดถอยในระดับเลวร้ายที่มิอาจเทียบกับอดีตที่ผ่านมา ความรับผิดชอบร่วมกัน ความเป็นหนึ่งเดียวกันของโลก การรับมือผลกระทบทางสังคม-เศรษฐกิจจากโรคโควิด-19ข้อเท็จจริงสองประการบวกกับความเสี่ยงที่มีส่วนยกระดับความไม่มั่นคง ความวุ่นวาย และความขัดแย้ง ทำให้เราเชื่อว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นวิกฤตความท้าทายครั้งใหญ่หลวงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และต้องการมาตรการรับมือที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะรับมือได้ดีก็เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ละทิ้งเกมการเมือง และตระหนักว่ามนุษยชาติกำลังตกอยู่ในอันตราย”

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN)
ทั้งนี้ นายกูเตอร์เรสชี้ว่าเขาได้หารือกับบรรดาผู้นำทั่วโลกอย่างต่อเนื่องถึงกรณีการแพร่ระบาดใหญ่และ “พวกเขาต่างตระหนักมากขึ้นแล้วว่าเราลงเรือลำเดียวกันและต้องร่วมมือกันต่อสู้ ปัญหาในตอนนี้คือเราจะสร้างวิธีการที่ปฏิบัติได้จริงอย่างไร” กูเตอร์เรสกล่าว พร้อมย้ำว่าจำเป็นต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว เรากำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องอย่างเชื่องช้า แต่เราจำต้องเร่งความเร็วแล้วและต้องยกระดับการดำเนินการ หากเราต้องการจะเอาชนะเชื้อไวรัสและช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ”
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วโลกล่าสุด มีผู้ติดเชื้อแล้ว 861,305 ราย เสียชีวิตแล้ว 42,365 ราย และรักษาตัวหายแล้ว 178,718 ราย