จากกรณีที่สหรัฐอเมริกา ประกาศตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลลากร (จีเอสพี) สินค้าจากไทย ให้มีผลหลังการประกาศ 6 เดือน โดยอ้างเหตุผลว่าไทยไม่สามารถยกระดับสิทธิแรงงานให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล
วันที่ 27 ต.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบข้อมูลมาตั้งแต่เดือน ก.ย. จากการหารือกับรัฐมนตรีพาณิชย์ สหรัฐอเมริกาที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนที่ประเทศไทย
.
ครั้งนั้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้มีหนังสือรายงานนายกรัฐมนตรีถึงประเด็นดังกล่าว
.
ดังนั้นการระงับสิทธิพิเศษกับไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ไทยมีมติห้ามนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรของสหรัฐอเมริกาแน่นอน เป็นคนละประเด็นกัน
ทั้งนี้ การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 51 จัดขึ้นเมื่อต้นเดือน ก.ย. ส่วนการที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย ลงมติแบน 3 สารเคมีการเกษตร เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ต.ค.
.
หลังจากนั้นจึงมีข่าว สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับนโยบายแบนสารเคมีการเกษตร 3 ชนิด
.
โดยระบุถึง การแบนสารไกลโฟเซต ซึ่งเป็นสารกำจัดวัชพืชว่า ไทยลงมติแบนโดยไม่พิจารณาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ และมีการแนบเอกสารจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกามาด้วย ว่าประเมินแล้วว่าไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์