GULF-AIS-KTB พร้อมชิงไลเซ่นส์ Virtual Bank เบื้องต้นแบ่งกันถือหุ้นคนละ 33%

ซีอีโอ GULF เผยความพร้อมเข้าชิงไลเซ่นส์ Virtual Bank ของกลุ่ม (GULF-AIS-KTB) เบื้องต้นแบ่งกันถือหุ้นคนละ 33% พร้อมคุยกับพาร์ทเนอร์อื่นๆ เพิ่มเติมถ้ามีประโยชน์ ล่าสุดอยู่ระหว่างคุยกับ OR ลูกกลุ่ม ปตท.

‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยถึงรายละเอียดการยื่นขอใบอนุญาต ‘ธนาคารไร้สาขา’ (Virtual Bank) ซึ่งจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค. 2567) ว่า

บริษัทฯ จะร่วมทุนกับกลุ่มเอไอเอส (AIS) และธนาคารกรุงไทย (KTB) โดยสัดส่วนการถือหุ้นเบื้องต้น ได้แก่ กลุ่ม GULF ถือหุ้น 33% กลุ่ม AIS ถือหุ้น 33% กลุ่ม KTB ถือหุ้น 33% อื่นๆ อีก 1%

ทั้งนี้ บริษัทฯ ร่วมทุนที่จะยื่นขอไลเซ่นส์ Virtual Bank จะมี AIS และกรุงไทยเป็นแกนหลัก แต่ก็อยู่ระหว่างพิจารณาพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ เพิ่มเติม โดยล่าสุดอยู่ระหว่างพูดคุยกับ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) แต่ยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มเติม

สำหรับงบลงทุน เบื้องต้นคือทุนจดทะเบียนตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินทุนที่รวมกันทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ อย่างไรก็ตาม สามารถเพิ่มทุนได้หากต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต โดยการจัดตั้งนั้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ธปท.ด้วย

ซีอีโอของ GULF กล่าวอีกว่า Virtual Bank จะทำให้การเข้าถึงธนาคารของคนไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนที่เดิมไม่มีโอกาสกู้เงินเพราะไม่มีหลักประกัน เช่น รถยนต์ หรือที่ดิน ฯลฯ เพราะ Virtual Bank สามารถใช้ข้อมูลทางเลือกอื่นๆ เช่น บิลค่าโทรศัพท์มือถือ เข้ามาพิจารณาได้

อย่างไรก็ตาม ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Virtual Bank ไม่ได้เน้นปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ แต่จะเน้นปล่อยสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก เช่น ปล่อยสินเชื่อหลัก 30,000-50,000 บาท ไปจนถึงหลัก 100,000-200,000 บาทไม่เกินนี้ เป็นต้น

เมื่อสอบถามถึงเกณฑ์ที่เข้มงวดของ ธปท. ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีประเด็นว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนใหญ่นั้น ซีอีโอของ GULF กลับมองว่า เกณฑ์ที่เข้มงวดถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะปลอดภัยสำหรับทุกคนที่จะเข้าไปทำธุรกิจ รวมถึงปลอดภัยสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาฝากเงินหรือกู้เงินอีกด้วย