‘GUYGEEGEE’ แรปเปอร์หนุ่มสุดป่วน ที่สะท้อนความกวนผ่านบทเพลง

มาทำความรู้จักตัวตนของ ‘GUYGEEGEE’ แรปเปอร์หนุ่มสุดป่วน ที่สะท้อนความกวนผ่านบทเพลง

‘กาย กล้าไม้ ไมเกิ้ล’ หรือที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อ ‘GUYGEEGEE’ แรปเปอร์หนุ่มสุดปั่น หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันจากรายการ Show Me The Money Season 2 หลังจากที่ได้จับปากกาเซ็นสัญญาเข้ามาเป็นศิลปินภายใต้สังกัด HYPE TRAIN ‘GUYGEEGEE’ ก็ได้ปล่อยผลานออกมาให้แฟน ๆ ติดตามกันทั้งหมด 3 ซิงเกิลด้วยกัน

โดย ‘GUYGEEGEE’ ได้ประเดิมซิงเกิลแรกในฐานะศิลปินด้วยเพลง‘TUAD YEEEEEW’ ต่อมาเขาก็ได้กลับมาชวนแฟน ๆ ไปจีบสาวฉบับกวน ๆ พร้อมกัน ผ่านซิงเกิลที่ 2 ‘ขาวหมวย’ และได้กลับมาสานความป่วนแบบไม่มีพัก ฉบับคนหาของไม่เจอผ่านซิงเกิลล่าสุดอย่างเพลง ‘กูก็ไม่รู้’ 

วันนี้ workpointTODAY PLAY ได้พูดคุยกับ ‘GUYGEEGEE’ ถึงเรื่องตัวตน และเรื่องราวบนเส้นทางศิลปินของเขา

‘GUYGEEGEE’ ศิลปินที่เข้าวงการมาจากการเป็นศิลปินภายใต้สังกัด ‘Kamikaze’ ก่อนที่จะค้นพบว่าตนเองชื่นชอบและมีความสามารถในด้านการแรป

“จุดเริ่มต้นบนเส้นทางศิลปิน ถ้าแรกสุดเลยก็เริ่มตั้งแต่ช่วงเด็ก ๆ ครับ คือช่วงเด็ก ๆ เนี่ย มีแคสติ้งเขามาชวนไปแคสที่ RS แล้วก็ได้เข้าไปอยู่ค่าย Kamikaze รุ่น 2 ครับ ซึ่งตอนนั้นเขาก็ให้ทำเป็นแนวเพลง POP เป็นบอยแบนด์อยู่วง ‘FACT U’ ตอนที่เข้าไป RS ตอนนั้นเราแค่รู้ว่าเราชอบเพลงเฉย ๆ แต่เรายังไม่ได้อยากแบบ เอ้ย เราต้องเป็นแรปเปอร์แน่ ๆ เลยอะไรแบบนี้ แล้วก็ค่อยมาเริ่มสนใจการแรปจริง ๆ ตอนช่วงที่โตขึ้นมาหน่อยประมาณ 17-18 ครับ เริ่มต้นจากการได้ฟังเพลงแรปก่อน พอฟังแล้วเราก็แบบ เอ้ย เราชอบว่ะ แล้วเราก็เลยเริ่มแรปกับเพื่อน แล้วก็มีแต่งเองบ้าง ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่า เอ้ย เราก็ทำได้นี่หว่า แล้วทุกคนก็บอกว่า เห้ย ทำไมมึงทำได้ง่ายจังเลย เหมือนพอลองแรปสดออกมา ผมก็แรปได้เร็ว เพื่อนก็บอก เห้ย แปลกว่ะ เราก็แบบใช่เหรอว่ะ มึงทำกันไม่ได้เหรอ เราเลยคิดว่า เออว่ะ เราทำได้ หลังจากนั้นผมก็เลยอินเลยครับ ระหว่างนั้นผมก็ได้ลองแรปไปเรื่อย ๆ นะ เวลาเราเจอรายการอะไรแบบนี้ ก็ไปลงแข่งเรื่อย ๆ ลองทำ MV กันเองอะไรแบบนี้ครับ แต่ว่าตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีค่าย ไม่ได้มีอะไรนะครับ”

ที่ผ่านมา ‘GUYGEEGEE’ ได้ใช้เวลาเกือบ 4 ปี ในการตามหาความฝัน ถึงแม้มันจะยากลำบาก แต่ด้วยความชื่นชอบในการแรป และความคิดที่ว่า “ถ้ากูไม่ทำอันนี้ แล้วกูจะทำอะไรวะ” พลักดันให้เขาสู้ต่อ จนสามารถกลายมาเป็น ‘GUYGEEGEE’ ที่ทุกคนรู้จักในวันนี้

“โห ที่ผ่านมาผมไปประกวดมาหลายเวทีมาก ผมไปตั้งแต่อันที่โนเนมเลยนี้ครับ แบบเคยมีเวทีนึง ที่เขาประกาศแข่งกันว่าแบบ เห้ย ชนะได้ทอง ได้เงินรางวัล เขาจัดที่ต่างจังหวัดไกล ๆ ผมก็ขับรถไปเลย ต่อให้ไปคนเดียว ผมก็ขับไป ในหัวผมคือแบบ กูชนะแน่ ๆ กูจะได้ทองกลับบ้านแล้ว (หัวเราะ) แต่พอไปถึงนี่คือ ตกรอบแรก แพ้อะไรแบบนี้ มีเยอะครับ พวกรายการแบบ The Rapper ผมก็ไปสมัครทุกอันเลยนะ ทุกภาคเลยนะ แต่ว่าแบบไม่ติดสักอัน ช่วงนั้นก็มีท้อนะ เพราะว่าตอนนั้นมันก็เป็นช่วงที่ผมจบมหาลัยด้วย เหมือนคนรอบตัวเราก็เริ่มจริงจังกับงาน จริงจังกับชีวิต แล้วฝั่งครอบครัวก็เหมือนแบบ เห้ย ทำไรอยู่ว่ะ อะไรแบบนี้ครับ คือเราก็ไม่ได้ทำเงินจากตรงนี้ใช่ไหม แต่ว่าเราชอบ เราก็รู้แค่ว่าแบบ เราอยากทำให้มันเป็นงานให้ได้ เราชอบในสิ่งนี้จริง ๆ เรารักในสิ่งนี้จริง ๆ แต่ว่าจังหวะนั้นก็คือ มันก็แย่อะครับ เหมือนดูแบบไม่ไปทางไหน ยอดวิวก็ไม่มี สัญญา ค่าย ก็ไม่มี คือแค่แบบทำเพลงปล่อยกับเพื่อนเล่น ๆ ไปวัน ๆ อะไรแบบนี้ครับ มันเริ่มมีความรู้สึกแบบว่า ไหวป่ะวะ แต่สุดท้ายแล้วผมรู้สึกว่า ถ้ากูไม่ทำอันนี้ แล้วกูจะทำอะไรวะ ก็เลยไม่ได้มีความคิดที่จะล้มเลิกครับ จนกระทั่งผมมาติดรายการ Show Me The Money ซีซั่น 2 รอบลึก แล้วก็ได้เข้ามาเซ็นสัญญากับ HYPE TRAIN นี่แหละครับ จริง ๆ ทุกอย่าง มันก็มีจังหวะของมันอะ พอมันออกมาถูกเวลาพอดี ก็แบบดีใจครับ”

หลังจากที่ได้จับปากกาเซ็นสัญญาไปได้ไม่นาน ‘GUYGEEGEE’ ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับวงการ T-POP ด้วยการส่งเพลง ‘ทน’ ที่ได้ร่วมทำกับศิลปินรุ่นน้องร่วมค่ายอย่าง ‘Sprite’ หรือ ‘สไปร์ท ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ’ ขึ้นไปติดอยู่บนชาร์ต Billboard Global ได้ในอันดับที่ 89 จากบรรดาเพลงทั่วโลก ยกเว้นในอเมริกา ซึ่งพวกเขาได้รับการบันทึกว่าเป็นศิลปินไทยสองคนแรก ที่ได้ขึ้นบนชาร์ต Billboard Global อีกด้วย

‘GUYGEEGEE’ มองว่าจังหวะเวลาเป็นส่วนผสมสำคัญ ที่ทำให้เพลง ‘ทน’ สามารถเข้าไปอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คนได้

“คือตอนทำก็คือไม่ได้คิดว่าแบบเพลงนี้ต้องฮิต หรืออะไรเลย คือเราทำกันวันนั้นแค่สนุก ๆ แต่ผมมองว่าจังหวะที่เราปล่อยเพลง มันเป็นจังหวะที่แบบล็อกดาวน์พอดี ไม่มีที่ไหนเปิดตอนกลางคืน หลายคนตกงาน หลายคนไม่มีตังค์ แล้วอยู่ดีๆ ก็มีเพลงอันนึงปั่นขึ้นมาว่าแบบ “อยู่กับพี่ลำบากนะหรือว่าน้องจะทน” อะไรแบบนี้อะ ผมว่ามันน่าจะเป็นส่วนผสมสำคัญเลยนะ ที่ทำให้คนแบบ เห้ยอะไรวะ มันมาเปิดในจังหวะที่ใช่พอดี อะไรแบบนี้ครับ อาจจะเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้เพลงนี้ไวรัล”

เพลง ‘ทน’ ถือเป็นใบเบิกทางที่ดีในด้านศิลปินให้กับ ‘GUYGEEGEE’ และยังสามารถการันตีได้ว่า ถึงแม้เขาจะเป็นศิลปินน้องใหม่ แต่ความสามารถของเขาไม่เป็นสองรองใครแน่นอน

“ตั้งแต่เพลง ทน ขึ้นไปติดชาร์ตเพลง Billboard Global ชีวิตผมก็เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะเลยครับ แบบมีคนรู้จักผลงานเรามากขึ้น ในด้านงานก็มีศิลปินใหม่ ๆ แบบว่ามาเสนอฟีเจอริ่งเรา แบบมีโอกาสในการทำงานมันมากขึ้นครับ เพราะมันเป็นเหมือนว่า ปักหมุดไว้นิดนึงว่า เฮ้ย เออ การันตี ว่าแบบ เราก็เอาเรื่องเหมือนกันนี่หว่า (หัวเราะ)”

นอกจากนั้นในปี 2022 นี้ ‘GUYGEEGEE’ ก็ได้มีโอกาสร่วมฟีเจอริ่งกับศิลปินระดับท็อป อย่าง ‘Lipta’ ในเพลง ‘ทักครับ (Tuk Krub)’พร้อมส่งท่อนแรปติดหู สุดปั่น อย่างท่อน “ทัก ทัก ทะ ดะ ทะ ดัก ทัก ทัก ทัก ทักครัช baby what’s up เจอกันครั้งแรกก็ทำหัวใจเต้นตึ้บตับ”เข้าไปเป็นหนึ่งในเพลย์ลิสต์เพลงฮิตที่ใครหลายๆ คนจะต้องเต้นตาม จนกลายไปเป็นไวรัลสุดฮิตใน TikTok

“งงมาก งงมากครับ บอกเลยว่าอันนี้มาแบบงง ๆ มาก เพราะว่าเพลงมันปล่อยไปได้สักพักแล้ว ก่อนที่มันจะมาแมส สักประมาณ 2-3 เดือนได้ครับ อยู่ดี ๆ ก็แบบมีคนส่งมาให้ผมว่าแบบ เนี่ย เสียงเราหรือเปล่า ผมก็แบบเออใช่ ทำไมเหรอ พอผมเข้าไปดูผมก็แบบ เห้ย ทำไมมันเพิ่มเร็วจังอะ อยู่ดี ๆ มันแบบ พรึบ ๆ ๆ ๆ ผมก็แบบ เห้ย คนชอบว่ะ ก็ดีใจ เหมือนตอนแรกก็มีคนคอมเมนต์ว่าแบบ อะไรวะ แม่งแรปอะไรของมันว่ะ พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย เลยแบบไม่คิดเลยนะ แบบไม่คิดเลยว่ามันจะแบบไวรัล ดีใจมากครับ คือตอนที่ Lipta มาชวนผมแบบตกลงเลย ผมแบบไม่สนด้วยซ้ำว่าแบบจะได้ค่าตอบแทนเป็นอะไร เพราะแบบ Lipta เป็นศิลปินที่แบบผมฟังตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ผมแบบไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าเขาจะฟีทเจอริ่งกับผม แบบใช่ผมอ่อ จริงอ่อ เขาก็บอกใช่ ๆ เห็นน้องแบบป่วน ๆ ดี กวน ๆ ดี อยากได้ความกวนตีน เข้ามาอยู่ในเพลง ผมก็แบบโอเค ผมเอาแน่นอน แล้วมันก็ดันออกมาดีด้วย ผมก็เลยแบบแฮปปี้มากครับ”

เวทีระดับโลก คือเป้าหมายสูงสุดของ ‘GUYGEEGEE’ บนเส้นทางศิลปิน

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ‘GUYGEEGEE’ จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากบนเส้นทางศิลปิน แต่เขาก็ยังคงสร้างความท้าทายให้กับตัวเองเสมอในทุก ๆ ก้าวของการเติบโต “ผมว่าตอนนี้เหมือนผมก็ได้เริ่มไปทัวร์ในประเทศไทย ค่อนข้างเยอะ ค่อนข้างได้ไปหลายจังหวัด ในตอนนี้เป้าหมายต่อไปของผมก็คือ ได้ออกไปประเทศเพื่อนบ้านบ้าง อาจจะเริ่มจากเอเชียก่อน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไประดับโลกครับ”

ด้วยเป้าหมายที่วางไว้ทำให้เขาไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง และยังคงเดินหน้าผลิตผลงานคุณภาพออกมาให้แฟน ๆ ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง พร้อมซ่อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดป่วนเอาไว้ในทุกผลงาน ทำให้เมื่อแฟน ๆ ได้ฟังก็จะต้องรู้ได้ทันทีว่านี้แหละ คือผลงานของ ‘GUYGEEGEE’ “ในทุกเพลงของผม ผมจะใส่กลิ่นอาย ความปั่นป่วน ความตลกลงไปครับ ไม่ว่าเพลงมันจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก เกี่ยวกับฮิปฮอป แรปจ้าไปเลย หรือจะเกี่ยวกับชีวิต ผมก็จะคอยใส่ความปั่น ๆ ป่วน ๆ ลงไปนิดนึง เพื่อไม่ให้มันซีเรียสเกินไปครับ ถ้าสังเกตดี ๆ เพลงจากผมจะไม่มีเพลงไหนที่แบบซีเรียสแบบว่า โอโห้ จริงจังไปเลย มันน้อยมากเลย ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นแบบสนุกมากกว่า แบบฟังแล้วรู้สึกดีไปกับมันครับ อาจจะเป็นตลก หรือว่าสนุก อะไรแบบนี้ก็ได้แล้วแต่เลย”

‘กูก็ไม่รู้’ บทเพลงที่สะท้อนอีกหนึ่งอารมณ์ของ ‘GUYGEEGEE’ ที่เกิดขึ้นมาจากการหาของไม่เจอ

 “เพลงนี้มันเกิดขึ้นจากตอนที่ผมหาของไม่เจอ ผมก็เลยแต่งเพลงนี้ขึ้นมา และผมก็อยากให้แฟน ๆ ได้เห็นมุมอื่นของผมบ้าง จากที่ก่อน ๆ มันก็จะออกแนวซอฟต์ ๆ นิดนึง แต่เพลงนี้ก็แบบจะมีคำหยาบเพิ่มขึ้นหน่อย อาจจะเป็นอารมณ์ที่รุนแรงมากกว่าหน่อย ช่วงหลัง ๆ มา ผมทำเพลงที่ออกแนวฟังง่าย ๆ เยอะ เพลงนี้ก็เลยอยากจะกลับมาทำให้มันออกมาเป็นแนวฮิปฮอปหน่อย มีอารมณ์ที่แบบรุนแรงมากขึ้นนิดนึง มาในแนวดนตรีที่ยังโยก ๆ ให้ความรู้สึกแบบมันส์ ๆ สนุก ๆ โยกตามได้ ในด้านเนื้อหาคือ สำหรับผมบางครั้ง เราเครียดเยอะแล้วในชีวิต เราไม่จำเป็นต้องมานั่งจับสาระอะไรมากเกี่ยวกับเพลงนี้ ผมแค่อยากให้ทุกคนฟัง แล้วสนุกไปกับมัน เอนจอยไปกับมัน คือจริงๆ แล้วมันเป็นอารมณ์ที่หงุดหงิดอะไรแบบนี้ แต่ว่าผมมาเปลี่ยน Mood ให้มันเป็นเพลงที่สนุก แล้วสามารถปลดปล่อยไปกับมันได้ครับ ผมอยากให้ผู้ฟังลิงก์กับอารมณ์ผม ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะจูนให้มันเข้าถึงกัน อาจจะเปิดตอนหาของไม่เจออยู่ก็ได้ครับ (หัวเราะ)”

นอกจากนี้ ‘GUYGEEGEE’ ยังได้แอบสปอยผลงานเพลงใหม่ที่ได้ทำร่วมกับ ‘Sprite’ ไว้ว่า “สำหรับผลงานกับสไปร์ทก็จะออกมาเร็ว ๆ นี้แน่นอนครับ รูปแบบนี้ผมบอกเลยว่า คราวนี้ครบรสชาติแน่นอน เพราะว่าอาจจะมีออกมาแบบให้ผู้คนได้เลือกฟังกันแบบหลาย ๆ แบบ หรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้นะ (หัวเราะ) อยากให้ทุกคนรอดูครับ ในเพลงนี้น้องก็มีความโตขึ้น ก็อาจจะได้เห็นเพลงอะไรที่มันมีความจริงจังขึ้นนิดนึง ถ้าเทียบกับครั้งที่แล้วครับผม อาจจะลองอะไรใหม่ๆ กันมากขึ้นด้วยครับ จริง ๆ เพลงนี้เรากะจะทำเป็นเหมือนกับ EP ร่วมกันครับ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว มันมีหลายเพลงที่เราทำร่วมกันตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่ได้ถูกปล่อยออกมาสักทีครับ เราเลยจะเลือกมารวมกัน ที่มันเข้ากัน แต่ว่าจะปล่อยออกมาเร็ว ๆ นี้แน่นอน จริงๆ เพลงก็คือเสร็จ เรียกได้ว่าเสร็จเกือบหมดแล้ว แต่ว่ารอในเชิงโปรดักชั่นอย่างเดียวครับ ถ้าเป็นไปตามแผนก็ไม่น่าจะเกินเดือนกันยายน ไม่นานเกินรอแน่นอนครับ”

และอีกหนึ่งสิ่งที่แฟน ๆ T-POP จะพลาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ งาน TPOP Concert Festival โดยงานนี้หนุ่ม ‘GUYGEEGEE’ ก็ได้มีรายชื่อติดอยู่ในไลน์อัปงานนี้อีกด้วย พูดได้คำเดียวว่าห้ามพลาด เตรียมตัวกันให้พร้อมแล้วมาเขย่าวงการ T-POP ไปพร้อมกันในวันที่ 29-30 ตุลาคม นี้ ที่ QSNCC (ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์)