“เราตั้งใจจะสร้างโอกาสให้เรื่องราวจากเอเชีย” คุยกับ เจมส์ กิบบอนส์ President of Asia Pacific ในวันที่ MAX บุกไทยอย่างเป็นทางการ

ประเทศไทยเพิ่งโบกมือลา HBO GO และฉลองการมาถึงของ Max บริการสตรีมมิ่งจาก  Warner Bros. Discovery ที่เปิดให้บริการในเอเชียทั้ง ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และฮ่องกง ไปเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ประเทศทไทยจะได้รับชมคอนเทนต์คุณภาพที่หลายหลายมากขึ้นกว่าก่อน โดย รวบรวมคอนเทนต์ของ Warner Bros ทั้ง จาก HBO, Harry Potter, จักรวาล DC, Cartoon Network, Max Originals และภาพยนตร์ฮอลลีวูด รวมไปถึงสารคดีบน Discovery+ ไว้ในที่เดียว

สำนักข่าว TODAY ได้สัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ คุณเจมส์ กิบบอนส์ President of Asia Pacific ของ Warner Bros. Discovery ถึงทิศทาง ความเปลี่ยนแปลง และความหวังที่จะได้เห็นคอนเทนต์ไทยเพิ่มเติมในสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Max

Max ได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว เราสามารถคาดหวังจะได้เห็นเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

Max จะนำประสบการณ์การสตรีมรูปแบบใหม่มาสู่แฟนๆ ชาวไทย ในแง่ของคอนเทนต์ เรามีคอลเลกชันที่โดดเด่นและแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ซึ่งรวมถึงซีรีส์ใหม่ๆ อย่าง Harry Potter: Wizards of Baking หรือว่า Dune: Prophecy, โปรแกรมที่เรียกได้ว่าสร้างวัฒนธรรมใหม่ๆ อย่าง Friends, House of The Dragon, หรือว่า The White Lotus รวมถึงภาพยนตร์ฮอลลีวูดชั้นนำ เช่น Twisters, Barbie, Godzilla x Kong: The New Empire, คอลเลกชันภาพยนตร์ The Lord of The Rings และ Harry Potter และอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่ชอบเรื่องราวจากชีวิตจริงก็สามารถเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Discovery, TLC, AFN, Food Network, ID และ HGTV ได้ด้วย

ทั้งหมดนี้เสริมด้วยประสบการณ์ที่ทำให้การสตรีมเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ได้พร้อมกัน การแนะนำคอนเทนต์ตามความสนใจเฉพาะบุคคล ฟีเจอร์รองรับภาษาไทย และโปรไฟล์สำหรับเด็กครับ

อะไรทำให้เวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดที่ Max จะเข้าสู่ตลาดไทย?

ปัจจุบันประเทศไทยมีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งสำหรับหลายแบรนด์และคอนเทนต์ของเรา ซึ่งรวมไปถึง Harry Potter และ DC Universe ด้วย และในขณะเดียวกัน เราเข้าใจว่ารูปแบบการรับชมคอนเทนต์ของผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงไป เราต้องการเข้าถึงแฟนๆ ในทุกที่ที่พวกเขาอยู่ และ Max ก็เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคอนเทนต์ที่ทั้งครอบคลุมและหลากหลาย

เราอยากจะขยายการเข้าถึง Max ให้กว้างขึ้นด้วยทำงานร่วมกับพันธมิตรในไทย เช่น AIS เพื่อให้บริการแพ็กเกจที่รวมบริการเพย์ทีวี บรอดแบนด์ และโทรคมนาคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคด้วยครัม

อะไรทำให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดสำคัญสำหรับ MAX?
เอเชียแปซิฟิกมีประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และ 3 ใน 5 ประเทศที่มีอันดับเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกก็มาจากเอเชียแปซิฟิก ทำให้ภูมิภาคนี้มีศักยภาพมหาศาลสำหรับ Max ในการเติบโตและการก้าวสู่ความเป็นสากล เรามุ่งมั่นที่จะใช้ศักยภาพตรงนี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด และจะพัฒนาคอนเทนต์และประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครับ

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเข้าสู่ตลาดไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคืออะไร?
เอเชียแปซิฟิกมีความแตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆ เพราะมีเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายสูงมากครับ ความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละตลาดมีความต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้ไม่สามารถใช้กลยุทธ์เดียวกันได้ทุกที่ ความท้าทายคือการปรับผลิตภัณฑ์และบริการของ Max ให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละตลาด

หนึ่งในความใหม่สำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ คือแพ็กเกจมือถือที่เปิดตัวในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ รวมถึงในประเทศไทยผ่าน AIS ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราเสนอแผนบริการลักษณะนี้ในระดับโลก เพราะเรารู้ว่าผู้ชมในเอเชียหลายกลุ่มชื่นชอบการดูคอนเทนต์ผ่านมือถือ และเราต้องการมอบตัวเลือกที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์นี้ด้วย

มีแฟนๆ ในไทยที่รอคอยการประกาศซีรีส์ออริจินัลคอนเทนต์ไทยจาก Max มีโปรเจกต์อะไรที่กำลังจะเปิดตัวบ้างหรือไม่?

จุดโฟกัสหลักในการเปิดตัวครั้งนี้คือการนำเสนอคอนเทนต์ระดับพรีเมียมจากต่างประเทศและความหลากหลายของคอนเทนตืไอคอนิกต่างๆ แต่ Max ยังมีคอนเทนต์ท้องถิ่นที่น่าสนใจด้วย อย่าง ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์อย่าง ขุนพันธ์ 3, ซีรีส์ทำอาหารอย่าง MarkKim + Chef, และเรียลลิตี้อย่าง Deane’s Dynasty ในอนาคต เราตั้งใจจะสร้างโอกาสสำหรับเรื่องราวจากเอเชียเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมในท้องถิ่นด้วย และเพื่อป้อนผลงานให้กับกลุ่มโกลบอลคอนเทนต์ของเราด้วยครับ