ครม.อนุมัติจ้างงานท้องถิ่น 3.9 หมื่นอัตรา ใช้งบ 4 พันล้านบาท เห็นชอบผู้ประกันตน ม.33 ที่สมทบเงินไม่ครบ 6 เดือน ได้รับเงินเยียวยา 15,000 บาท
วันที่ 21 ก.ค. 2563 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. เห็นชอบโครงการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากกระทรวงแรงงาน โดยจะใช้งบในเงินกู้
กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ที่ส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือนภายใน 15 เดือน จำนวน 59,776 คน ทางสำนักงานประกันสังคม จะดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน (มิ.ย. – ส.ค.) รวมเป็นเงิน 15,000 บาท เป็นการจ่ายครั้งเดียว ทั้งนี้ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ที่ส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือนนั้น ก่อนหน้านี้ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา เดือนละ 5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน จากกระทรวงการคลัง และยังไม่ได้รับเงินชดเชยจากสำนักงานประกันสังคม
นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ จำนวน 3 โครงการ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ดังนี้
1.) อนุมัติโครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย วงเงินไม่เกิน 1,080.59 ล้านบาท โดยเป็นการจ้างงานประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ปฏิบัติงานอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เป็นเวลา 12 เดือน เพิ่มจ้างงานจำนวน 15,548 คน
2.) อนุมัติโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย วงเงินไม่เกิน 2,701.87 ล้านบาท ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในทุกตำบล ตำบลละ 2 คน ทั่วประเทศ จำนวน 14,510 คน ระยะเวลาจ้างงาน 12 เดือน อัตราค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท
3.) อนุมัติโครงการเฝ้าระวังสร้างแนวกันไฟ สร้างรายได้ชุมชน ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงินไม่เกิน 246.69 ล้านบาท ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ จำนวน 9,137 คน ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน เฉลี่ย 30 วันต่อเดือนต่อคน