ผู้บัญชาการทหารบก แจงเฮลิคอปเตอร์ทหารบินใจกลางกรุงหนุนภารกิจขบวนเสด็จ วอนอย่าเชื่อข่าวปลอมโยงรัฐประหาร
วันที่ 24 พ.ย. 2563 พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวชี้แจงถึงกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียที่มีการติดแฮชแท็กเฮลิคอปเตอร์บินต่ำหลายจังหวัดจนเกิดข่าวลือรัฐประหาร ว่า การที่เฮลิเคอปเตอร์บินในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานครนั้น เป็นส่วนหนึ่งของเฮลิคอปเตอร์ขบวนเสด็จ ที่กองทัพบกจัดขึ้นเพื่อสนองถวายงานโดยเป็นการร้องขอของสำนักพระราชวังผ่านกรมยุทธการทหารบก
ซึ่งเป็นเรื่องทางราชการที่ไม่จำเป็นต้องนำเสนอข่าว จึงต้อง คิด วิเคราะห์ พิจารณาว่า การที่มีเฮลิคอปเตอร์มาบินแบบนี้มีสาเหตุจากอะไรไม่ใช่ไปตีความความต่างๆ นานาและแชร์กันไปโดยไม่มีการสอบถามจากส่วนราชการ หรือก่อนลงข่าวควรมาถามกับกองทัพบกว่าเรื่องนี้คืออะไร
ดังนั้นการบริโภคข่าวต้องมีสติ ต้องเช็ค และตรวจสอบก่อน อย่าไปเชื่อ ซึ่งการพูดวันนี้ไม่ได้แกนนำที่ปล่อยข่าว เพราะไม่มช่คู่ขัดแย้ง แต่เตือนผู้สื่อข่าว เพื่อให้ประชาชนรับทราบอะไรคือข้อเท็จจริงและข่าวลวง
ส่วนจะดูแลการชุมนุมวันพรุ่งนี้(25 พ.ย. 2563) เป็นหน้าที่ตำรวจ ส่วนสถานที่ราชการหากตำรวจร้องขอให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ทหารพร้อมทำหน้าที่ช่วยเหลือ แต่การดูแลเรื่องกฎหมายและการปฏิบัติว่าใครถูกหรือผิด เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในเขตพระราชฐานมีกฎหมายคุ้มครองอยู่แล้วว่าผู้ชุมนุมต่องอยู่ระยะห่าง 150 เมตร เป็น พรบ.ที่นักการเมืองพิจารณาไม่ใช่ทหาร-ตำรวจกำหนด
ส่วนการทำรัฐประหารจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้หรือไม่ พลเอกณรงค์พันธ์มองว่า ถ้าบ้านเมืองสงบเรียบร้อย เศรษฐกิจก็จะตามมา แต่ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ ปล่อยให้มีข่าวลือต่างๆ คน 60 ล้านคนจะดำเนินชีวิตอย่างไร จึงต้องช่วยกันคิดและสื่อต้องช่วยกันเพราะประชาชนเชื่อสื่อมากกว่าเชื่อตน
พร้อมปฎิเสธ ไม่ทราบเหตุผลกระแสข่าวลือการทำรัฐประหารออกมาตลอด ก่อนถามกลับสื่อทำแล้วดีกับประเทศชาติ เศรษฐกิจหรือไม่ ขออย่าไปคิดมาก และให้สื่อตัดคำนี้ออกจากหน้าหนังสือพิมพ์สื่อโซเชียล
ทั้งนี้มั่นใจทุกอย่างมีทางออก ซึ่งคำพูดของตน กองทัพอาจจะเชื่อ แต่ประชาชนจะเชื่อสื่อ ดังนั้นสื่อ ไม่ใช่นำเสนอแค่ขายข่าวหรือขายคลิป
ส่วนม็อบชนม็อบ จะเป็นชนวนเหตุเกิดรัฐประหารหรือไม่ ย้ำว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทหาร-ตำรวจห้ามไม่ได้ แต่ทุกคนต้องช่วยกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง รุนแรง พร้อมตอบสั้นๆไม่ทราบอะไรจะเป็นชนวนรัฐประหาร