SHARE

คัดลอกแล้ว

หลังจากปล่อยทีเซอร์ให้แฟนๆ ได้ปักหมุดรอชมซีรีส์ที่ที่พาไปสัมผัสถึงความลุ้นระทึกถึงขีดสุดกับคำทำนายจากนรก ซึ่งเป็นสิ่งเหนือจินตนาการ โดยเป็นซีรีส์ที่สร้างจากเว็บตูนชื่อเดียวกัน

ภาพจาก : Netflix

ผมอยากจะขอต้อนรับทุกคน… สู่โลกใบใหม่

ล่าสุดวันที่ 16 .. 2564 ที่ผ่านมา Netflix ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์  Hellbound (ทัณฑ์นรก) ซีรีส์ที่จะพาทุกคนดำดิ่งไปสู่ห้วงแห่งความโกลาหล พร้อมแฝงด้วยนัยสำคัญและจินตนาการ จากผู้กำกับ ยอนซังโฮ กับการกลับมาพร้อมการเปิดมุมมองของเขาต่อโลกใบนี้ ด้วยการสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นเว็บตูน ก่อนจะถูกดัดแปลงสู่ซีรีส์ ซึ่งเขาก็ยังได้มีส่วนร่วมทั้งหมดตั้งแต่ผู้เขียนเว็บตูนสู่ ผู้กำกับ ตลอดจนร่วมเขียนบทอีกด้วย

ซึ่ง workpointTODAY PLAY ได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษในช่วง APAC Mini Press Conference โดยมีทีมนักแสดงอย่าง ยูอาอิน, คิมฮยอนจู, พัคจองมิน, วอนจินอา เเละยังอิกจุน รวมถึงผู้กำกับ ยอนซังโฮ ได้เข้าร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงาน เเละความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้ ก่อนจะไปชม Hellbound (ทัณฑ์นรก) กันแบบเต็มๆ

ภาพจาก : Netflix

เกณฑ์ในการเลือกนักแสดงของคุณคืออะไร

ผู้กำกับยอนซังโฮ: ผมเลือกและยื่นข้อเสนอให้แก่นักแสดงที่ผมคิดว่าเหมาะสมกับตัวละครนั้นมากที่สุด โชคดีที่คราวนี้นักแสดงทุกท่านตอบตกลงที่จะร่วมแสดงครับ

รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับยอนซังโฮ หนึ่งในผู้กำกับผลงานแนวทริลเลอร์ที่เก่งที่สุดของเกาหลี

ยูอาอิน: เป็นเกียรติและเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับยอนครับ ผมคาดหวังและจินตนาการตั้งแต่ก่อนได้พบกับผู้กำกับแล้ว ว่าผู้กำกับยอนซังโฮจะสื่อโลกของทัณฑ์นรก ที่ดูเหมือนเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติแต่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงออกมาได้สร้างสรรค์เพียงใด

คิมฮยอนจู: ตอนที่เห็นผลงานชิ้นก่อนๆ ของผู้กำกับ ฉันรู้สึกได้ว่าเขามีโลกทัศน์และมุมมองของตัวเองที่ชัดเจนและสร้างสรรค์มาก ก่อนหน้านี้ฉันค่อนข้างมีอคติ เพราะคิดว่าคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์น่าจะเป็นคนที่ไม่ค่อยรับฟังความเห็นของคนอื่น พอได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเขา ฉันก็ยิ่งอคติมากกว่าเดิมเมื่อได้เห็นรูปของเขา(หัวเราะ) แต่หลังจากได้ร่วมงานและพูดคุยกับเขา ฉันค้นพบว่าตัวจริงของเขาเป็นคนตลกและเป็นผู้กำกับที่มีความคิดสร้างสรรค์มาก

ยังอิกจุน: ถึงแม้เนื้อเรื่องจะหนักและรุนแรงไปบ้าง แต่บรรยากาศการถ่ายทำไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ผู้กำกับคอยสร้างบรรยากาศระหว่างการถ่ายทำให้สนุกครื้นเครงตลอด ต่อให้บทบาทของนักแสดงทุกคนจะตึงเครียดแค่ไหน แต่เราก็สามารถทำงานได้โดยมีสุขภาพจิตใจและกายที่แข็งแรงในสภาพแวดล้อมที่ดี

พัคจองมิน: ผมได้ร่วมงานกับผู้กำกับเป็นครั้งที่สองครับ การได้ร่วมงานกับผู้กำกับยอน นอกจากจะสนุกตอนแสดงแล้ว การได้สนทนาในกองถ่ายก็สนุกมากเช่นกันครับ ผมทึ่งทุกครั้งที่ได้รับฟังไอเดียและมุมมองของเขาเมื่อก่อนเขาเคยเอ่ยถึงผลงานเรื่อง ทัณฑ์นรก (Hellbound) ให้ผมฟัง น่าตกใจเช่นกันที่ได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจริงๆ ในสมองของเขามีไอเดียมากมายครับ ผมว่าต่อให้เขาสิ้นลมหายใจไปก็ยังสร้างผลงานที่อยู่ในหัวของเขาได้ไม่หมดครับ (หัวเราะ)

วอนจินอา: ถ้าไม่ใช่ผู้กำกับยอน ฉันคิดว่าคงว่าคงไม่มีใครริเริ่มไอเดียแบบเรื่องนี้ได้แน่นอนค่ะ ถือเป็นโชคดีของฉันค่ะ ตอนที่ได้อ่านบทฉันทึ่งกับเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน แค่คิดว่าจะได้ร่วมแสดงในเรื่องนี้ก็ทำให้ฉันตื่นเต้นมากแล้ว แทนที่จะกดดันตามเนื้อเรื่องที่เคร่งเครียด บรรยากาศครื้นเครงของกองถ่ายทำให้ทำงานได้อย่างเพลิดเพลินมากขึ้น

ภาพจาก : Netflix

ต้องขอบคุณ Netflix ที่ทำให้ผลงานจากเกาหลีใต้ได้เป็นที่ประจักษ์ต่อทั่วโลก รู้สึกอย่างไรที่ต้องมีผลงานได้เผยแพร่ตามมาติดๆ กับผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่าง Squid Game และ My Name

ผู้กำกับยอนซังโฮ: ผมคิดว่าโชคดีมากที่มีโอกาสได้เผยแพร่ผลงานชิ้นใหม่ในขณะที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจคอนเทนต์จากเกาหลีใต้ ซีรีส์ของเรามีความแปลกใหม่และมีทีมนักแสดงและทีมงานที่ตั้งใจทำงานการอย่างเต็มที่ หวังว่าจะได้รับความเพลิดเพลินในการชมครับ

ยูอาอิน: ในฐานะนักแสดง ผมรู้สึกมีกำลังใจและพลังในการทำงานมากเมื่อเห็นว่าผู้ชมจากทั่วโลกชื่นชมผลงานคอนเทนต์จากเกาหลีใต้ ถ้าได้ดูตัวอย่างอย่างเป็นทางการแล้ว ผมว่าน่าจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามู้ดและโทนของ ทัณฑ์นรก (Hellbound) แตกต่างจากผลงานเรื่องอื่นที่เอ่ยมาในคำถาม ผมคิดว่าหลายคนๆ น่าจะชื่นชอบครับ ผมหวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นผลงานที่ผู้คนพูดถึงและได้รับความรักในระยะยาว ไม่ใช่แค่ความนิยมเพียงช่วงสั้นๆ ครับ

คิมฮยอนจู: ฉันเห็นด้วยกับคุณยูอาอินค่ะ ในฐานะนักแสดงฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ผลงานเกาหลีได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก โดยส่วนตัวฉัน ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ไปกว่าเดิม ฉันยังคงตั้งใจทำหน้าที่ในฐานะแสดง และมุ่งมั่นกับผลงานของฉันต่อไปให้ดีที่สุดค่ะ

ยังอิกจุน: ต้องยอบรับครับว่าเกาหลีผลิตซีรีส์และภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งมีสตรีมมิงเช่น Netflix เข้ามา ก็ยิ่งทำให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานในเกาหลี สามารถต่อยอดและแสดงศักยภาพของตัวเอง บวกกับไอเดียที่ไร้ขีดจำกัด และอุปสรรคเรื่องงบประมาณในการสร้าง ทำให้ผลงานอย่าง สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) และ My Name ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ผมว่า Netflix สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับผู้ผลิต และนำพากันบรรลุเป้าหมายและความสำเร็จ

พัคจองมิน: ผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นแฟนตัวยงของ Netflix และผมก็ชื่นชอบ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) ด้วยครับ ผมก็เดาไม่ได้ว่าจะมีคนติดตามผลงานของเรามากแค่ไหน แต่ในฐานะผู้ชม ผมคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้เปิดเผยมุมมองที่ต่างจากทุกผลงานที่ผมเคยรับชม เป็นเรื่องที่ชวนให้ตระหนักถึงสิ่งรอบๆ ตัวเรา ความโลภและ สัญชาตญาณของมนุษย์ ฝากติดตามชมกันเยอะๆ ด้วยครับ

วอนจินอา: ก่อนหน้านี้ฉันเคยร่วมงานแต่ผลงานที่เผยแพร่ในประเทศ รู้สึกตื่นเต้นมากที่ซีรีส์เรื่องนี้จะได้เผยแพร่สู่สายตาทั่วโลก แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ฉันสงสัยเหมือนกันค่ะว่าผู้ชมแต่ละประเทศจะให้การตอบรับอย่างไรบ้าง

ในผลงานสายดาร์กเรื่องนี้มีตัวละครที่หลากหลายมาก ช่วยเล่าถึงเคมีของเหล่านักแสดงระหว่างการถ่ายทำได้หรือไม่

ยูอาอิน: สำหรับผมการถ่ายทำละครหรือภาพยนตร์ไม่ได้มีข้อแตกต่างอะไรมาก ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษที่ได้กลับมาเล่นซีรีส์ แต่ผมตั้งตารอที่จะได้พบกับผู้ชมทั่วโลกผ่าน Netflix หวังว่าแฟนๆ จะเพลิดเพลินกับซีรีส์เรื่องนี้ของผมนะครับ

ภาพจาก : Netflix

Train To Busan เป็นหนึ่งในผลงานภาพยนตร์เกาหลีที่ประสบความสำเร็จในประวัติการณ์ คุณรู้สึกกดดันไหมตอนที่ทำ Hellbound โดยเฉพาะเมื่อซีรีส์เรื่องนี้จะฉายใน 190 ประเทศทั่วโลก และคุณรับมือกับความกดดันนี้อย่างไร

ผู้กำกับยอนซังโฮ: ผมไม่รู้สึกกดดันมากเท่าไหร่ถ้าเทียบกับผลงานอื่นๆ ผมพยายามสนุกกับการมันให้มากที่สุด และคอยสนับสนุนให้นักแสดงและทีมงานได้ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดครับ

รู้สึกอย่างไรกับบท จองจินซู บทที่ได้รับในเรื่องนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกับบทที่เคยได้รับในผลงานก่อนๆ อย่างไรบ้าง

ยูอาอิน: บทพูดในเรื่องยาวมากครับ เรื่องราวในซีรีส์เป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติ ผมต้องสวมบทบาทเป็นคนที่แสดงให้เห็นสิ่งเหนือธรรมชาติโดยยึดจากความเชื่อและทฤษฎีของตัวละครผม ผมพยายามโฟกัสถึงการแสดงออกของตัวละครที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว พยายามแสดงออกให้เป็นธรรมชาติ ดูไม่มากเกินไป

บทบาทที่ได้รับในเรื่องนี้ต่างกับบทที่คุณเคยได้รับก่อนหน้านี้อย่างไร และคุณมีวิธีเข้าถึงตัวละครอย่างไรบ้าง

คิมฮยอนจู: สิ่งที่แตกต่างจากบทที่เคยได้รับก่อนหน้านี่คือความหวาดกลัวที่คิมฮยอนจูได้รับค่ะ เนื่องจากเรื่องนี้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติ ฉันเลยตั้งใจโฟกัสให้เห็นถึงความเป็นจริงของมนุษย์เพื่อให้เห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งเหนือธรรมชาติและความเป็นจริงได้อย่างชัดเจน อีกทั้ง ฉันเน้นที่จะแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของตัวละครแทนที่จะเน้นโชว์ความแข็งแกร่ง  

ภาพจาก : Netflix

ความประทับใจแรกของคุณเมื่ออ่านสคริปต์คืออะไร และอะไรทำให้คุณตื่นเต้นมากที่สุดเกี่ยวกับซีรีส์นี้  คุณลักษณะใดที่คุณชื่นชมมากที่สุดและน้อยที่สุดเกี่ยวกับตัวละครของคุณ

พัคจองมิน: สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับผมคือแมสเสจที่ต้องการสื่อผ่านซีรีส์ ผมรู้สึกประทับใจตั้งแต่ตอนอ่านเวอร์ชั่นเว็บตูนแล้ว และคิดว่าเวอร์ชั่นซีรีส์เองก็น่าจะสื่อสารไปยังผู้ชมได้อย่างดีเช่นกัน สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดเกี่ยวกับตัวละครของผมคือ เขาเป็นคนธรรมดา คนธรรมดาที่มีอยู่ในชีวิตความเป็นจริง สิ่งที่ผมไม่ชอบมากที่สุดเกี่ยวกับเขาคือ เขาไม่พอใจกับหลายสิ่งมากเกินไปครับ

ช่วยเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครของคุณ และวิธีเตรียมตัวสำหรับบทบาทที่คุณได้รับได้ไหม

วอนจินอา: ซงโซฮยอนเป็นตัวละครที่มีความสับสนและรู้สึกหมดหวังเมื่อคนที่เธอรักต้องเผชิญกับโชคร้าย เพราะเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ในชีวิตจริง ทำให้ยากที่จะจินตนการได้ค่ะ ฉันคอยปรึกษาผู้กำกับอยู่เสมอ เพื่อให้เห็นแนวทางในการแสดงบทบาทของตัวละครที่อาจจะต้องเสียคนรักไป และคอยเตือนตัวเองให้จินตนาการว่าฉากที่กำลังถ่ายทำอยู่เป็นเรื่องจริงค่ะ

คุณเคยบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณร่วมงานในโปรเจกต์ที่เกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ คุณทำให้ตัวเองกลมกลืนกับจักรวาลของ ทัณฑ์นรก (Hellbound) อย่างไร โดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวกับเหล่าตัวละครเหนือธรรมชาติที่ใช้ CG

ยังอิกจุน: ผมเคยมีประสบการณ์แสดงในฉากที่ใช้ CG ตอนถ่ายทำที่ญี่ปุ่น เป็นผลงานแนวตลก ผมต้องแสดงเหมือนโดนกระสุนยิง พอได้ทราบว่าจะมี CG ตัวละครที่เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติในเรื่องนี้ ผมรู้ตื่นเต้นและท้าทายมากครับ ตัวผมเป็นคนที่มีจินตนาการล้ำเลิศอยู่แล้ว ทำให้รู้สึกสนุกที่ต้องเข้าฉากที่มี CG มากครับ

ภาพจาก : Netflix

เหตุผลที่ตัดสินใจนำผลงานเว็บตูน Hellbound มาทำเป็นผลงานซีรีส์แบบ live action คืออะไร อะไรที่ทำให้ ทัณฑ์นรก (Hellbound) น่าสนใจ

ผู้กำกับยอนซังโฮ: ตอนที่เริ่มโปรเจกต์กับเพื่อนนักวาดการ์ตูน ผมแค่อยากจะสร้างสิ่งใหม่ที่สนุกและน่าสนใจ ทาง Netflix ชื่นชอบผลงานฉบับเว็บตูน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง อารมณ์และโทนของเรื่อง หรือแมสเสจที่ต้องการสื่อ ทำให้ได้มีโอกาสได้สร้างเป็นเวอร์ชั่นซีรีส์ขึ้นมาครับ

มีความยากลำบากอย่างไรบ้างที่ต้องเข้าฉากกับนักปฏิบัติการจากนรกที่ไม่สามารถมองเห็นตัวตน

ยูอาอิน: มีน้อยฉากมากที่ตัวละครที่ผมได้รับจะต้องเจอกับนักปฏิบัติการจากนรก เลยไม่รู้สึกกดดันอะไรครับ

มีอุปสรรคใดในการแสดงบทบาทตัวละครของคุณหรือไม่

คิมฮยอนจู: ไม่มีอุปสรรคอะไรเป็นพิเศษนะคะ ปกติฉันพยายามไม่กังวลก่อนที่จะถ่ายทำ และค่อยๆ หาคำตอบและแนวทางในการแสดงไประหว่างแสดงบทบาทนั้นๆ ในเรื่องนี้ฉันอ้างอิงนิสัยของตัวละครมินฮเยจินจากต้นฉบับเว็บตูนเป็นส่วนใหญ่ ถ้ารู้สึกติดตรงไหน ฉันก็มักจะกลับไปอ่านเว็บตูนอีกครั้งค่ะ

การได้ร่วมงานในซีรีส์เรื่องนี้ส่งผลต่อความเชื่อและการดำเนินชีวิตของคุณอย่างไรบ้าง

วอนจินอา: ซีรีส์เรื่องนี้ได้ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของนรกที่ต่างจากที่เราวาดไว้ ถ้าพูดถึงนรกเรามักจะนึกถึงไฟนรกอะไรแบบนี้ใช่มั้ยคะ ฉันคิดว่าในแต่ละลัทธิความเชื่อ ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นแก่ตัว มีความคิดในแง่ลบ ยิ่งมีคนแบบนั้นเยอะมากเท่าไหร่ก็ทำให้ที่นั่นกลายเป็นนรกได้เหมือนกัน ฉันตระหนักได้ว่า ไม่ว่าจะในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันหรือการเข้าร่วมกลุ่มใดๆ ก็ตามการใช้วิจารณญาณอย่างชาญฉลาดเป็นสิ่งที่จำเป็นมากค่ะ

ภาพจาก : Netflix

คุณจะทำอย่างไร ถ้าเหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นในชีวิตจริง สิ่งแรกที่คุณจะทำคืออะไร

ยังอิกจุน: คงวิ่งหนีก่อนอย่างแรกเลยครับ คงได้แต่คิดว่าผมทำอะไรผิด ถึงได้โดนตามล่าแบบนี้ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าสมองจะตอบโต้อย่างไรถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริง แต่คิดว่าคงหวาดกลัวมาก และยากที่จะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงครับ

เตรียมตัวสำหรับฉากแอ็คชั่นอย่างไรบ้าง

คิมฮยอนจู: ฉากแอ็คชั่นไม่ใช่ฉากที่รุนแรงมากเท่าไหร่ เตรียมตัวแบบสบายๆ ไม่ได้เครียดอะไรค่ะ โชคดีที่มีคนคอยช่วยเหลือเยอะ ทำให้ผ่านไปได้อย่างสนุกและราบรื่นค่ะ

ภาพจาก : Netflix

สำหรับ Hellbound (ทัณฑ์นรกเป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของโลกที่ถูกครอบงำโดยปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่จู่ๆ ก็มีผู้ปฏิบัติการจากนรกปรากฏกายขึ้นเพื่อส่งผู้คนไปลงนรก ขณะเดียวกันกลุ่มลัทธิทางศาสนากลุ่มใหม่ที่ชื่อว่า The New Truth ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายโกลาหล ในขณะที่คนกลุ่มอื่นๆ ต่างพยายามสืบหาความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันอย่างต่อเนื่อง สามารถรับชมได้เเล้ววันนี้ ทาง Netflix

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า