เปิดเกณฑ์ใหม่ โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 2 ขยายเวลาถึงสิ้นปี 2566

ครม.เห็นชอบ โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ปรับเกณฑ์ดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99%ต่อปี ดีเดย์ลงทะเบียน 10 ก.ย.นี้

วันที่ 7 ก.ย. 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการ ‘บ้านล้านหลัง’ ระยะที่ 2 มอบธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ให้สินเชื่อกับผู้มีรายได้ปานกลางและผู้มีรายได้น้อยได้มี ‘เงินกู้’ ไปซื้อบ้านได้ในราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท

น.ส. รัชดา กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการมีประชาชนสนใจให้ความสนใจยื่นขอสินเชื่อจำนวนมาก โดยข้อมูล ณ วันที่ 21 ก.ค. 2564 ธอส. ได้อนุมัติสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังให้ประชาชนไปแล้ว 52,514 ราย วงเงิน 39,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงินที่ตั้งไว้ 50,000 ล้านบาท

วันนี้ ครม. จึงเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่แพงและอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากยิ่งขึ้น

โดยมีการปรับปรุงเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการเพื่อให้ประชาชน ได้เข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น ดังนี้

1. ปรับชื่อเป็น โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2)

2. ปรับกรอบวงเงินโครงการเพิ่ม 20,000 ล้านบาท เป็น 70,000 ล้านบาท

3. ไม่กำหนดเกณฑ์รายได้ ‘ผู้กู้’ และเงินงวดผ่อนชำระ จากเดิมที่กำหนดเกณฑ์รายได้ของผู้กู้ไว้ คือ

– ผู้กู้ที่มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท ต้องผ่อนชำระไม่เกิน 1 ใน 2 ของรายได้สุทธิต่อเดือน

– ผู้กู้ที่มีรายได้ต่อเดือนเกิน 25,000 บาท ต้องผ่อนชำระ 1 ใน 3 ของรายได้สุทธิต่อเดือน

4. ปรับอัตราดอกเบี้ยคงที่ ให้อยู่ที่ร้อยละ 1.99 ต่อปี เป็นระยะเวลา 4 ปี จากเดิมคิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3 เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับผู้กู้ที่มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท

5. ขยายระยะเวลาดำเนินการจนถึง 31 ธันวาคม 2566 หรือ เมื่อ ธอส. ให้สินเชื่อเต็มวงเงิน จากเดิมที่โครงการจะสิ้นสุดในสิ้นปี 2564 นี้

ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส.

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงมติครม. เห็นชอบให้ ธอส. สานต่อ “โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2)” ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ว่า โครงการดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน ผู้ที่เริ่มต้นทำงานเพื่อสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้นด้วย

โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและผ่อนปรนเงื่อนไข สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรกเท่ากับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 5-7 เท่ากับ MRR -2% ต่อปี และปีที่ 8 ถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับ MRR -0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1% ต่อปี และกรณีกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารอยู่ที่ 6.150% ต่อปี) ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก ( 7 ปี ) กรณีกู้ 1,200,000 บาท ผ่อนชำระงวดละ 5,000 บาท ในช่วง 84 งวดแรก ให้กู้เพื่อซื้อบ้าน หรือห้องชุด ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือห้องชุด
โดยธอส. ยังได้ยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) 2.ค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) 3.ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาท ต่อราย) และ 4.ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง) เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 ก.ย. 2564 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป เพียงดาวน์โหลด Mobile Application : GHB ALL และกดลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ เมื่อทำตามขั้นตอนครบถ้วนแล้วลูกค้าจะได้รับรหัส 9 ตัวทาง GHB Buddy บน Application Line (ตัวอักษร 3 ตัว และตัวเลข 6 ตัว) เพื่อนำมาแสดงในการยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมได้ภายใน วันที่ 30 ธ.ค. 2566 หรือ ก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ