ชาวฮ่องกง 0.1% ได้รับสิทธิ์ไปลงคะแนนเลือกคณะกรรมการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผู้สมัครที่รัฐบาลจีนทำการคัดกรองมาแล้วว่าเป็นผู้รักชาติ
วันที่ 20 ก.ย. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ฮ่องกงจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการสรรหาผู้นำฮ่องกงคนใหม่ นับเป็นการนำระบบเลือกตั้งแบบใหม่มาใช้เป็นครั้งแรก หลังจากที่จีนออกข้อบังคับให้ผู้สมัครต้องเป็นคนที่รัฐบาลปักกิ่งมองว่าเป็น “ผู้รักชาติ” เท่านั้น
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการคัดเลือกตัวแทนจากสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเลือกตั้ง (Election Committee) มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเพียง 7,900 คน จากเดิมที่เคยมี 240,000 คนในปี 2559
และผู้ชนะการเลือกตั้ง 967 คน จากผู้สมัคร 1,016 คน ที่ได้รับการคัดกรองจากจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว จะเข้าไปทำหน้าที่ร่วมกับบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อจากส่วนกลาง รวมเป็น 1,500 คน ที่มีสิทธิ์เลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติ 40 จาก 90 ที่นั่งในช่วงปลายปีนี้ และเลือกผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงในปีหน้า
หลังจากปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 18.00 น. เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) มีผู้มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด 4,380 คน แต่เจ้าหน้าที่กลับต้องใช้เวลานับข้ามคืน เป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมง จึงจะทราบผล
ในการแถลงข่าวช่วงเช้าวันนี้ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ออกมาขอโทษที่นับคะแนนล่าช้า และยอมรับว่าควรจะนับคะแนนเสร็จตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนแล้ว
โดยผลที่ออกมาก็เป็นไปตามคาด คือมีแต่ผู้ที่แสดงออกว่าสนับสนุนรัฐบาลจีนเข้ามาเกือบทั้งหมด ยกเว้นคนเดียวคือ Tik Chi-yuen อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง ที่แสดงตัวเป็นกลาง
การลดจำนวนผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง และผู้สมัครทุกคนต้องผ่านการรับรองว่าเป็นผู้รักชาติจากรัฐบาลจีน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชากรเพียง 0.1% จาก 7.4 ล้านคนของฮ่องกงมีสิทธิ์เลือก กำลังเป็นสิ่งที่ชาวฮ่องกงกำลังเผชิญอยู่ ภายใต้ระบอบ “ผู้รักชาติปกครองฮ่องกง” ภายหลังจากจีนใช้อำนาจกดดันผู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างหนัก ในรอบกว่า 1 ปีที่ผ่านมา