ฮ่องกงปะทะอีก หลังม็อบเผาทางเข้าสถานีรถไฟฟ้า ร้องเพลงชาติสหรัฐฯ ขอให้ “ทรัมป์” ช่วย

ผู้ประท้วงที่จุดไฟเผาที่ทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินเอ็มทีอาร์กลางในฮ่องกง เมื่อวันที่ 8 ก.ย.62 โดยผู้ประท้วงชุมนุมเขตใจกลางเมือง ปิดถนนและบังคับให้ปิดสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งตำรวจได้กักตัวบุคคลไว้หลายคน (ภาพโดย: Vivek Prakash / AFP)

การชุมนุมในฮ่องกงก้าวเข้าสู่สัปดาห์ที่ 15 แล้ว เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังมีการเดินขบวนอย่างสงบไปยังสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐช่วยปลดปล่อยฮ่องกงและนำประชาธิปไตยมาสู่ฮ่องกง

ความคืบหน้าสถานการณ์ชุมนุมประท้วงในฮ่องกง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดปะทะกันขึ้นอีกครั้ง ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวฮ่องกงหลายหมื่นคนที่บริเวณหน้าสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา หลังผู้ชุมนุมได้เดินขบวนไปที่หน้าสถานกงสุลของสหรัฐอเมริกา โดยระหว่างนั้นผู้ชุมนุมได้ร้องเพลงชาติของสหรัฐฯ พร้อมทั้งยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ช่วย “ปลดปล่อยฮ่องกง”

ทั้งนี้ เหตุปะทะกันเกิดขึ้นหลังการชุมนุมดังกล่าวกำลังสิ้นสุดลง และ ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งเริ่มทยอยเดินทางกลับ ก่อนที่ความรุนแรงจะกลับมาเกิดขึ้นอีกเมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้ารวบตัวผู้ชุมนุมหลายคนไว้ พร้อมไล่จับกุมผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นสวมเสื้อยืดสีดำและหน้ากากสีดำในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดินคอสเวย์ เบย์ สร้างความโกรธแค้นให้กับผู้ชุมนุม ที่ตอบโต้ด้วยการทุบทำลายหน้าต่างกระจกของร้านค้าต่างๆ บริเวณสถานีรถไฟใต้ดินดังกล่าว

เหตุการณ์ ได้ยกระดับความรุนแรงมากขึ้นเมื่อผู้ประท้วงตัดสินใจจุดไฟเผากล่องกระดาษและวัสดุอื่นๆ บริเวณถนนและทางเข้าออกสถานีรถไฟใต้ดิน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ ส่วนผู้ชุมนุมก็ตอบโต้ด้วยการขว้างปาสิ่งของและก้อนหินเข้าใส่ และ ไม่ยอมสลายตัวตามคำเรียกร้องของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะกระจายกำลังหลบหนีไปยังย่านใกล้เคียง

การชุมนุมในฮ่องกงก้าวเข้าสู่สัปดาห์ที่ 15 แล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเร็วๆนี้ แม้ว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นาง แคร์รี่ แลม -ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง จะออกมาแถลงการตัดสินใจถอดถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยไปแล้ว