SHARE

คัดลอกแล้ว

รพ.เอกชนนับสิบแห่ง ประกาศปิดรับตรวจโควิด-19 หลังผู้ป่วยทะลัก ด้าน นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เผย สาเหตุเพราะเตียงไม่พอรับคนไข้ หากอาการไม่หนักขอให้ไป รพ.สนาม สวนสถานที่ในโรงพยาบาล ขอไว้สำหรับเคสหนักมากกว่า ขณะที่ รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ สวนกระแส ขยายเวลาตรวจผ่านระบบ Drive Thru ด้าน นพ.ธีระวัฒน์ แนะผู้ที่ไม่แสดงอาการแยกกักตัวเอง 14 วัน

วันที่ 9 เม.ย.2564 จากการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ ที่แพร่ระบาดไปทั่วทั้งประเทศ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว กระจายไปในวงกว้าง จนทำให้หลายคนต่างไปตรวจหาเชื้อตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน จนทำให้หลายโรงพยาบาล ต่างออกมาปิดรับการตรวจแล้ว

โดยโรงพยาบาลเอกชน กว่า 10 แห่ง ออกมาปิดให้บริการตรวจโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2564 หลายแห่งระบุว่า งดเนื่องจากเตียงคนไข้ สำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เต็ม และเกินศักยภาพที่จะทำได้ เช่น รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ , รพ.เจ้าพระยา , รพ.พญาไท 1 , รพ.พญาไท 2 ,รพ.สุขุมวิท, รพ.รามคำแหง, รพ.เมดพาร์ค , รพ.เพชรเวช, รพ.สุขุมวิท , รพ.ปิยะเวท , และ รพ.เปาโล เกษตร

ขณะที่ นายธานี มณีนุตร์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์ แคร์ จำกัด ในฐานะผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด(มหาชน) หรือ PRINC เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่นั้น ทางโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ โรงพยาบาลในเครือของ PRINC ได้ขยายเวลาการเปิดให้บริการตรวจโควิด-19 เป็นทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ผ่านระบบ Drive Thru ด้วยวิธี RT-PCR โดยโรงพยาบาลจะรายงานผลการตรวจผ่าน 3 ช่องทาง โดยผู้รับการตรวจไม่ต้องกลับมาฟังผลที่โรงพยาบาลเพื่อลดความเสี่ยง ได้แก่ 1.PRINC Health App 2.รายงานผลผ่านการส่งข้อมูล SMS 3.รายงานผลผ่านทางอีเมล โดยผู้รับการตรวจไม่จำเป็นต้องมาฟังผลการตรวจที่โรงพยาบาลและแจ้งผลให้ทราบภายใน 2-3 วัน จากเดิมในช่วงปกติสามารถรายงานผลได้ภายใน 12 ชั่วโมงเท่านั้น

และจากกรณีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งในกรุงเทพฯ เริ่มทยอยปิดรับการตรวจโควิด-19 นั้น ส่งผลให้มีจำนวนผู้เดินทางเข้ามารับบริการที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ มีการตรวจโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการเฉลี่ย 400-500 คนต่อวัน

ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ยืนยันที่จะดำเนินการตรวจคัดกรองโควิด-19 เพื่อแบ่งเบาภาระของภาครัฐ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนและควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ และอาจทำให้ผู้เข้ารับบริการตรวจโควิด-19 ไม่ได้รับความสะดวกในระยะนี้

ขณะเดียวกัน ในเครือโรงพยาบาลพริ้นซ์ เช่น โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน ได้ดำเนินการให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยระบบ Drive Thru แล้วเพื่อรองรับการตรวจโควิด-19 ของคนในพื้นที่

สำหรับ ขั้นตอนการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านระบบ Drive Thru นั้นจะใช้เวลาประมาณ 20-40 นาทีขึ้นกับช่วงเวลาและความหนาแน่นของการใช้บริการ โดยโรงพยาบาลได้ตั้งจุดตรวจ Drive Thru ที่บริเวณประตูทางเข้าจุดรับส่งผู้ป่วย โดยผู้เข้ารับการตรวจสามารถขับรถยนต์หรือนั่งรถส่วนบุคคล ผ่านเข้าจอดโดยไม่ต้องลงจากรถ ซึ่งจะเริ่มต้นจากจุดที่ 1 ทำการคัดกรองและซักประวัติ เพียงยื่นบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางเท่านั้น และเข้าสู่จุดที่ 2 ลงทะเบียนเพื่อทำประวัติ จากนั้นไปยังจุดที่ 3 ทำการเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกและคอ เพื่อนำส่งต่อห้องปฏิบัติการต่อไป

ส่วนอัตราค่าบริการในการตรวจคัดกรองโควิด-19 อยู่ที่ 3,800 บาทต่อท่าน สำหรับผู้ที่มีแอปพลิเคชัน PRINC Health App จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 100 บาท โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน PRINC Health ได้ที่ https://bit.ly/39SjO3j ในกรณีที่เดินทางมารวมทั้งหมด 3 ท่านคิดอัตราค่าบริการตรวจคัดกรองรวมอยู่ที่ 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม มีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวก่อนทราบผลการตรวจในกลุ่มเสี่ยง ขอให้งดเว้นการเดินทางและกักตัวดูอาการก่อนที่จะทราบผล เพื่อป้องกันการรับและแพร่เชื้อในช่วงการระบาด ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.princsuvarnabhumi.com/medical-guidelines/

ล่าสุด นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ให้สัมภาษณ์กรณีนี้ว่า ตามปกติโรงพยาบาลที่รับตรวจโควิด-19 ต้องรับคนไข้ที่มาตรวจไว้ แต่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อหลายร้อยคนต่อวัน ทำให้เตียงเต็ม จึงนำเรื่องมาปรึกษากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร และกองทัพบกก็จะเปิดโรงพยาบาลสนาม โดยจะประชุมร่วมกันอีกครั้ง

นอกจากนี้ โรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำนวน 470 เตียง จะเปิดรับในวันอาทิตย์ที่ 11 เม.ย.2564 หากกองทัพบก กองทัพเรือ และกรุงเทพมหานครเ ข้ามาช่วย จะได้ประมาณ 3,000 เตียง ซึ่งน่าจะเพียงพอ เพราะส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อยังอยู่ในกรุงเทพฯ

ส่วน การที่โรงพยาบาลเอกชน ไม่รับตรวจเชื้อโควิด-19 ทำให้ประชาชนมองภาพรวมว่า สถานการณ์วิกฤตแล้วใช่หรือไม่ นพ.เฉลิม ยอมรับว่า การระบาดในช่วงนี้อันตราย มีอัตราการติดเชื้อสูง เพราะเป็นเชื้อสายพันธุ์อังกฤษ ถ้าเป็นไปอย่างนี้และการจัดการเรื่องเตียงไม่ดี คนไข้อาจจะต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็ไม่ดี เพราะอาจจะทำให้ติดคนที่บ้านได้ ขณะนี้คนที่ติดอาจจะเป็นคนที่แข็งแรง และอาจจะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ หากไม่กักตัวให้ดี

แต่จะสามารถเข้าไปรับการตรวจโควิด-19 ตามปกติได้ใช่หรือไม่นั้น นพ.เฉลิม กล่าวว่า ประเด็นหลักคือ โรงพยาบาลไม่มีเตียงผู้ป่วยรองรับกรณีหากตรวจแล้วพบเชื้อ ไม่ใช่เรื่องการขาดแคลนน้ำยาตรวจเชื้อ เท่าที่ทราบทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน ขณะนี้มีการตรวจวันละเกือบ 20,000 คน

และตามข้อตกลงเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2563 เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐ ไม่ใช่ประเด็น ประเด็น คือ มีผู้ติดเชื้อเยอะบางที่มากกว่า 10% ถือว่า สูงมากและไม่มีเตียงรับ หากหยุดการบริการเตียงก็จะโล่งแล้วค่อยมาเปิดใหม่

ส่วนจะขอความร่วมมือผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงและยังไม่แสดงอาการไปอยู่ที่โรงพยาบาลสนามด้วยหรือไม่ เพื่อให้เตียงในโรงพยาบาลเพียงพอนั้น คงเป็นขั้นตอนทางการแพทย์ การติดเชื้อครั้งนี้ ต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะในกรุงเทพฯ หากเห็นว่า ไปกักตัวอยู่ในสถานที่รวม อาจจะไม่อยากไป เพราะบางคนมีกำลังจ่าย

ดังนั้น หากมีอาการเบา ควรไปโรงพยาบาลสนาม หากอาการหนักให้มาที่โรงพยาบาล และ 80% ของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อังกฤษ ไม่ค่อยแสดงอาการ จึงอยากให้เตรียมสถานที่ในโรงพยาบาลไว้สำหรับเคสหนักมากกว่า

ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยทางเพจเฟซบุ๊ก ว่า “ที่มาตรวจ ทุก รพ. ขณะนี้ มโหฬาร ดังนั้น ที่สงสัยตนเอง ไม่มีอาการ ทำง่ายๆ คือ แยกตัวห่างจากคนอื่น ใส่หน้ากาก กันไม่ให้เชื้อตนเองถ้ามี แพร่ไป ล้างมือบ่อยที่สุด ไม่เอามือที่อาจติดเชื้อจากตนเองไปป้ายพื้นผิว กักตัว 14 วัน แม้ตนเองติดเชื้อมา ระหว่างนี้ จะหายเองได้ และไม่แพร่เชื้อต่อ ถ้าอยากแน่ใจ ตอนจบอาจจะตรวจก็ได้ แม้ว่า อาจไม่จำเป็น แต่ถ้ามีอาการ รีบแจ้ง รพ. เพื่อรักษา ดังนั้น ในช่วงที่กักตนเองนี้ ก็ไม่แพร่ แลป ตรวจไม่ไหว แล้วครับ”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า