SHARE

คัดลอกแล้ว

‘เศรษฐา’ โพสต์เอง หารือ ‘เศรษฐพุฒิ’ ผู้ว่าฯ ธปท. เผยจะนัดทุกเดือน เกาะติดเรื่องเศรษฐกิจ-การเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (2 ต.ค. 66) นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ผู้ว่าฯ ธปท. (ผู้ว่าแบงก์ชาติ) ได้เดินทางมาเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว โดยใช้เวลาราว 45-50 นาที ก่อนที่ผู้ว่าฯ ธปท. จะเดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ต่อมา นายเศรษฐา ได้โพสต์ภาพการหารือกับนายเศรษฐพุฒิ ผ่าน แอปฯ X (ทวิตเตอร์) ส่วนตัว  พร้อมระบุว่า “วันนี้ผมเชิญ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจและการเงิน เป็นการประชุมที่มีประโยชน์มากครับ และหลังจากนี้ก็จะมีการนัดพบปะหารือในลักษณะนี้เป็นประจำทุกเดือนครับ”

[นายกฯ ยันไม่ได้จัดฉาก เรียกผู้ว่าฯ ธปท. คุย]

นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับผู้ว่าฯ ธปท.ว่า เป็นการพูดคุยกันธรรมดา ในฐานะผู้บริหารองค์กรสูงสุด ตนก็รับฟังความคิดเห็นของท่านเป็นธรรมดา ในเรื่องของสถานภาพเศรษฐกิจโดยรวม และทุกนโยบายที่ได้ทำ ถือเป็นการรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน รวมถึงข้อกังวลที่ท่านมีและเสนอแนะมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ว่าฯ ธปท.ได้สะท้อนเรื่องอะไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า แน่นอนมีการพูดคุยกัน เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ 2 คนคุยกัน และพูดคุยกันด้วยดี โดยจะมีการพบกันอย่างต่อเนื่อง และนัดครั้งต่อไปอีก 2-3 วันข้างหน้า และไม่มีขัดแย้งใดๆ ไม่มีแน่นอน และได้มีการประเมินถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นการพูดคุยกันทุกเรื่อง

ส่วนการพูดคุยกันวันนี้จะนำไปสู่การทบทวนนโยบายบางเรื่องหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า แน่นอนต่างคนต่างต้องทบทวน ไม่เช่นนั้นจะเรียกมาทำไม

“ผมไม่ได้เรียกมาจัดฉาก แต่เป็นการเรียกมาเพื่อพูดคุยให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติซึ่งกันและกัน ท่านเองก็ดูแลสถาบันการเงินของประเทศ การที่ผมเชิญท่านมาแสดงว่าผมก็ต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของท่านอย่างแน่นอน” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนกังวลเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ เช่น กรณีค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง นายเศรษฐา กล่าวว่า กังวลทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับปากท้องของประชาชน ไม่ต้องห่วง

เมื่อถามว่า ได้รับฟังการอธิบายนโยบายที่ผู้ว่าฯ ธปท. ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนรับฟัง ซึ่งมีทั้งเรื่องที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่เราก็ต่างคนต่างเป็นผู้ใหญ่ซึ่งกันและกัน จะเห็นตรงกันทุกเรื่องไม่ได้ แต่เราก็พูดคุยกันด้วยเหตุและผล

เมื่อถามว่า การพูดคุยกันครั้งนี้มีผลให้ต้องไปปรับนโยบายที่ปรับไปแล้วในตัวไหนบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ที่ปรับไปแล้วยังไม่มี อย่างที่บอกต้องรับฟังซึ่งกันและกัน และพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง และในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้หลังจากที่ตนประชุมกับผู้บริหารกระทรวงแล้ว จะมีการโทรศัพท์พูดคุยกันอีก และต้องคุยกับทุกคน

นายเศรษฐา กล่าวว่า หลังจากนี้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ อาจจะมีการนัดกับผู้ว่าฯ ธปท. อีกครั้งหรืออาจจะเร็วกว่านี้ ถ้ามีความต้องการ แต่การโทรศัพท์พูดคุยกันอาจจะบ่อยขึ้น และทาง ผู้ว่าฯ ธปท. ได้ฝากนโยบายในหลายเรื่องไว้ ซึ่งบางนโยบายตนไม่ได้คิดไว้เลย ทางผู้ว่าฯ ธปท. ก็ฝากมาว่า น่าจะทำตรงนั้นตรงนี้ รวมถึงนโยบายในอนาคตหลายๆ เรื่อง ซึ่งก็ได้ถามกลับไปว่า ตนก็ได้คิดเรื่องนั้นอยู่และท่านคิดอย่างไร ซึ่งโดยสรุปต่อไปนี้ถ้าตนจะทำอะไรก็จะพูดคุยกับผู้ว่าฯ ธปท.บ่อยขึ้น

(ภาพจาก X @Thavisin)

การพบหารือกันของนายกฯ กับผู้ว่าฯ ธปท. ครั้งนี้ ถูกจับตามองอย่างมาก หลังที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ 2.5% หรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 และท่ามกลางกระแสข่าวลือเรื่องการปลดตำแหน่งผู้ว่าฯ ธปท.

(ภาพจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย)

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 66 นายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวลือจะปลดนายเศรษฐพุฒิ จากตำแหน่งผู้ว่าฯ ธปท. โดยสรุปว่า เป็นเรื่องที่น่าตลกมาก ไม่เคยมีความคิด และข่าวนี้ไม่แน่ใจว่ามีข่าวมาได้อย่างไร

อย่างไรก็ตามก่อนเกิดกระแสข่าวลือดังกล่าว นายเศรษฐา เคยหารือกับนายเศรษฐพุฒิ เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการออกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งต้องใช้เม็ดเงินกว่า 560,000 ล้านบาท จากนั้น นายเศรษฐพุฒิ ได้ออกมาแสดงความเห็น ในลักษณะควรทำเฉพาะกลุ่ม รวมทั้งเสถียรภาพการทำนโยบายต่างๆ (อ้างอิง : ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติ’ จับตารูปแบบเงินดิจิทัล แนะแจก 10,000 บาท เฉพาะกลุ่ม )

ขณะที่ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 66 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งปัจจุบันเป็น ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala ระบุว่า ไม่เชื่อว่าข่าวลือปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ ที่โยงถึงมุมมองของผู้ว่าแบงก์ชาติที่ไม่เห็นด้วยกับการออกดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลจะเป็นความจริง

พร้อมได้อ้างอิง พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กฎหมายตีกรอบป้องกันเอาไว้ แม้กฎหมายให้อำนาจคณะรัฐมนตรีสามารถปลดผู้ว่าแบงก์ชาติได้ แต่รัฐมนตรีคลัง ต้องพิสูจน์ให้คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ผู้ว่าแบงก์ชาติมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งไม่สามารถรวมถึงความขัดแย้งเรื่องนโยบาย นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังยังเสี่ยงถูกกระแสสังคมประณาม “จะเข้าข่ายเป็นการลุแก่อำนาจ abuse of power”

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า