สถิติใช้งาน Tinder พุ่งสูงช่วงโควิด แต่คนยอมเสียเงินใช้บริการลดลง

ทินเดอร์ (Tinder) ได้รับการขนานนามให้เป็น ประตูสู่การเดตออนไลน์ เพราะนอกจากจะเป็นแอปพลิเคชันที่มีชื่อเสียง การันตีด้วยยอดดาวน์โหลดสูงถึง 340 ล้านครั้งนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2012 แล้ว ฟังก์ชันต่าง ๆ ยังเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ยังไม่ต้องการจ่ายเงินเพื่อใช้บริการเสริมอีกด้วย

จากฐานข้อมูลผู้ใช้งานที่ใหญ่มากของทินเดอร์ ทำให้สามารถนำข้อมูลการใช้งาน มาวิเคราะห์พฤติกรรมของมนุษย์ในแต่ละช่วงได้ และในช่วงครึ่งปี 2020 นี้เอง ก็เป็นช่วงของโควิด-19 ที่โลกเราได้เข้าสู่สภาวะที่ต่างออกไปจากช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ที่ทุกคนเคยเจอมา 

เอลี ไซด์แมน ซีอีโอของทินเดอร์ให้สัมภาษณ์กับเดอะเวิร์จ (The Verge) ว่า ผู้คนต้องการความสัมพันธ์กันมากขึ้นในช่วงที่ถูกกักตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ยังโสดและอาศัยอยู่คนเดียว ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด

สำหรับสถิติด้านการใช้งานนั้น ทางซีอีโอทินเดอร์เผยถึงตัวเลขที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าผู้คนคุยกันเยอะขึ้น คุยกันนานขึ้น ยิ่งทางผู้พัฒนาได้ปล่อยให้ใช้ฟีเจอร์ พาสปอร์ต แบบฟรี ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คนสามารถข้ามไปเลือกแมตช์กับผู้ใช้งานที่อยู่อีกฟากของโลกได้ จากที่ก่อนหน้าจะมีการกำหนดระยะทางให้สามารถค้นหาผู้ใช้งานในระยะสูงสุด 161 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งกรุงโซล ประเทศเกาหลีได้ ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่ถูกเยี่ยมเยียนโดยชาวทินเดอร์มากที่สุด

ในการใช้งานแอปพลิเคชันตัวนี้ ผู้ใช้จะต้องกรอกรายละเอียดของตนเพื่อสร้างโปรไฟล์ขึ้นมา และระบบก็จะสุ่มเลือกโปรไฟล์ของเพศที่เราระบุว่าสนใจมาให้ จากนั้นเราสามารถทำการ ‘ปัดซ้าย’ เพื่อปฏิเสธ หรือ ‘ปัดขวา’ เพื่อยอมรับ และหากอีกฝั่งปัดขวาเหมือนกับเรา ทางแอปก็จะดึงทั้งสองคนเข้าสู่ห้องสนทนา

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์กันเกือบทั้งโลก ทางทินเดอร์ได้เปิดเผยว่ามีการปัดทั้งซ้ายและขวารวมกันกว่า 3 พันล้านครั้ง และเป็นสถิติที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา

แม้สถิติการใช้งานจะเพิ่มขึ้นในทุกด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดคือจำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงิน อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังประสบกันทั้งโลก โดยปัจจุบันมีผู้ที่จ่ายเงินเพื่อให้บริการเสริมของแอปเพียง 6 ล้านคนเท่านั้น