เข้าใจสาเหตุที่สหรัฐ ยังต้องพึ่งพา ‘Huawei’

นับตั้งแต่ปี 2019 ที่ ‘ดอนัลด์ ทรัมป์’ ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ‘Huawei’ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน และหนึ่งในผู้พัฒนาระบบ 5G รายใหญ่ของโลก ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ

ด้วยความคิดที่ว่า แบรนด์อาจส่งเทคโนโลยีเข้ามาในสหรัฐฯ เพื่อล้วงเอาข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญา ประกอบกับความกังวลที่ว่า Huawei อาจได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานความมั่นคงของจีน 

ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มสั่งคนในหน่วยงานราชการเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Huawei พร้อมทั้งส่งคำเตือนเรื่อง Huawei อาจเป็นภัยคุกคามไปยังประเทศพันธมิตร อาทิ สหราชอาณาจักร แคนาดา อิตาลี ฯลฯ

แม้ว่า Huawei จะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก็ยังคงโดนแบนจากรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ดี ทำให้ ‘โทรศัพท์มือถือ’ ของ Huawei ที่ผลิตหลังจากนั้น ไม่สามารถใช้บางบริการของบริษัทอเมริกันได้ อาทิ Google 

[ Huawei โดนแบนแค่มือถือ ]

ในปัจจุบัน Huawei ก็ยังคงถูกตราหน้าว่าโดนแบนในสหรัฐอเมริกา แต่นั่นเป็นเพียงแค่การแบนในส่วนของ ‘โทรศัพท์มือถือ’ เท่านั้น

ทั้งนี้ เพราะสหรัฐฯ ยังคงต้องพึ่งพา Huawei ในเรื่องของ ‘IoT’ (Internet of Things) เพราะ Huawei ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำด้าน IoT ระดับโลก

แม้รัฐบาลจะยังไม่ไว้วางใจแบรนด์เท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเรื่องการใช้โครงข่าย 5G ที่อาจจะเป็นภัยคุกคามล้วงเอาข้อมูล แต่ดูเหมือนหลายอุตสาหกรรมจะไม่ได้กังวลต่อประเด็นนี้ด้วย

โดยเริ่มนำเทคโนโลยีของ Huawei มาสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาทิ โรงงานการผลิต โรงไฟฟ้า ศูนย์การเก็บข้อมูล โรงงานเกษตรกรรม ฯลฯ

[ 5 IoT ของ Huawei ในสหรัฐฯ ]

1. 1. 1. 1. 1. เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ (IoT-enabled Smart City) เช่น ระบบแสงไฟส่องสว่าง ระบบ Wi-Fi ระบบอินเทอร์เน็ต 5G การจราจร การควบคุมมลพิษทางอากาศ เหล่านี้ จะใช้ระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะในการควบคุม

1. 1. 1. 1. 2. เทคโนโลยีเพื่อยานยนต์อัจฉริยะ (Internet of Vehicle) การเชื่อมต่อเพื่อนำไปสู่การเพิ่มความปลอดภัยทางถนนและการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ

1. 1. 1. 1. 3. เทคโนโลยีโซลูชันลิฟต์อัจฉริยะ (Internet of Elevator) สามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้จากลิฟต์และบันไดเลื่อน รวมถึงสนับสนุนการเชื่อมต่อและการจัดการแบบรวมศูนย์ของลิฟต์กว่าล้านตัวด้วยนวัตกรรมต่างๆ เช่น ระบบเซนเซอร์ และกล้อง CCTV ในลิฟต์แบบเรียลไทม์เพื่อความปลอดภัย

1. 1. 1. 1. 4. เทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะ (Internet of Smart Building) เช่น ระบบอัตโนมัติในอาคารสำหรับการให้แสงสว่าง ระบบควบคุมสภาพแวดล้อมภายในอาคาร (HVAC) ความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัยช่วยให้เจ้าของทรัพย์สินเชิงพาณิชย์และผู้จัดการควบคุมการดำเนินงานอาคาร และต้นทุนเป็นเวลาหลายปี

1. 1. 1. 1. 5. ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ทั้งข้อมูลที่มีโครงสร้างชัดเจน (Structured Data) เช่น ตารางข้อมูลที่มีการจัดเรียงอย่างเป็นรูปแบบ และข้อมูลกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structured Data)

การที่โรงงานและบริษัทต่างๆ ในสหรัฐฯ หันมาเลือกใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Huawei อาจเป็นเพราะแบรนด์สามารถทำราคาการก่อสร้างและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ต่ำกว่าราคาตลาดได้ มีอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ราคาต่ำกว่าแบรนด์อื่นๆ ในตลาดถึง 30-40% มีคุณภาพ รวมถึงความเชื่อถือทางการค้าอีกด้วย

ที่มา :

• • • • https://www.cnbc.com/2020/03/31/huawei-2019-results-us-blacklist-led-to-12-billion-revenue-shortfall.html
      • https://e.huawei.com/en/solutions/services/smart-city