เร่งขยายผลจับไอซ์ 1.2 ตัน ที่สุราษฎร์ฯ ซุกกองขี้วัวหวังตบตา ตร.

รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี ติดตามการขยายผลการจับกุมไอซ์รายใหญ่ 1.2 ตัน พร้อมผู้ต้องหา 2 คน เบื้องต้นได้ข้อมูลผู้ต้องหาลอบขนไอซ์จากสมุทรสาครไปส่งยังท่าเรือแห่งหนึ่งในสตูล และก่อเหตุมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว

วันที่ 12 ก.ค. 2563 เวลา 13.00 น. ที่ สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามการขยายผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่

หลังเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ตำรวจ สภ.พุนพิน ตั้งจุดตรวจหน้าสหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด และพบรถ 6 ล้อ สีน้ำเงิน ทะเบียน 70-3579 ตรัง บรรทุกกระสอบมูลวัวมาเต็มท้ายรถ แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบไอซ์ 40 กระสอบ กระสอบละ 30 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม หรือ 1.2 ตัน จึงควบคุมตัวคนขับพร้อมพวกรวม 2 คน ไปสอบปากคำ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาลอบขนไอซ์จากสมุทรสาครไปส่งยังท่าเรือแห่งหนึ่งในสตูล ก่อเหตุมาเป็นครั้งที่ 4 และหากครั้งนี้ทำสำเร็จจะได้ค่าจ้างคนละ 100,000 บาท โดยผู้สั่งการอยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง ทาง ปปส.ภาค 8 ส่งกำลังเข้าตรวจสอบแต่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียด

ต่อมา พล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า มีความคืบหน้าในการขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งจะมีการขยายผลต่อไปยังผู้เกี่ยวข้องในส่วนอื่น

เรื่องการป้องกัน ซึ่งตนรับผิดชอบทั้งการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้สั่งการให้ทุกหน่วย ทุกภาค ทุกกองบัญชาการ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ทั้งประเทศ โดยตั้งเหลื่อมเวลาและสถานที่ ทั้งเส้นทางหลัก เส้นทางรอง ที่ผ่านมาทุกภาคดำเนินการอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ การลำเลียงบางเส้นทาง กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะใช้วิธีรถนำ เพื่อดูด่านตรวจเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้ต่อให้ด่านเราเยอะก็ยังเกิดการเล็ดลอดไปได้ แต่ที่จับกุมได้ก็เพราะความเข้มของการตั้งจุดตรวจจุดสกัด

ทั้งนี้ คาดว่ายาเสพติดนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านตอนเหนือของประเทศไทย จากข้อมูล ป.ป.ส.ภาค 8 เชื่อว่าประเทศไทยเป็นจุดพักสินค้าในเพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านและส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 โดยเฉพาะโซนยุโรป