SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 29 มี.ค. สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย กล่าวขอโทษประชาชนที่มีฐานะยากจน หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการห้ามประชาชนออกนอกบ้านเรือนเป็นเวลา 21 วันเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 จนก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั้งต่อประชาชนและความเสียหายทางเศรษฐกิจ และเสียงพากษ์วิจารณ์ว่าขาดการวางแผนอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจ

นายโมดีประกาศใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งห้ามประชาชนออกจากบ้านเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็นถูกปิดให้บริการทั้งหมด และห้ามการรวมรวมตัวทำกิจกรรมในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม มันกลับส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนที่มีฐานะยากจนหลายล้านคนทั่วประเทศ หลายคนประสบกับความหิวโหย และทำให้แรงงานอพยพที่ต้องตกงานหลายหมื่นคนต้องเดินเท้าจากเมืองใหญ่กลับหมู่บ้านในชนบท เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร เนื่องจากบริการขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการทั้งหมด

นายกรัฐมนตรีโมดี กล่าวปราศรัยทางวิทยุประจำสัปดาห์ในวันนี้ว่า เขาต้องกล่าวขอโทษประชาชนทุกคนป็นลำดับแรก เมื่อเขามองไปที่พี่น้องคนยากจนทั้งหลาย พวกเขาเหล่านั้นอาจจะคิดว่าเขาเป็นนายกรัฐมนตรีแบบไหน ที่ปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่เขายืนยันว่า ไม่มีทางเลือกอื่นในการสู้กับโควิด-19 มาตรการต่างๆ จะช่วยให้อินเดียมีชัยชนะเหนือโคโรนาไวรัส

รัฐบาลอินเดียประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 723,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ยากไร้ในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินเดียระบุว่า งบประมาณดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในมาตรการช่วยเหลือคนยากจนของอินเดียทั้งในรูปแบบของอาหารและเงินสด ในช่วงที่รัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ 21 วัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบและผู้มีรายได้น้อยจำนวนมากที่ขาดรายได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงไม่ประกาศแผนช่วยเหลืออื่นๆ ที่แน่ชัด

ด้านนายอภิจิต บาเนอร์จี ชาวอินเดีย และนายเอสเธอร์ ดูโฟล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 2019 ได้กล่าวเตือนว่า คนยากจนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหากปราศจากความช่วยเหลือ วิกฤตด้านอุปสงค์ก็จะส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้ว และประชาชนจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องขัดขืนคำสั่งของรัฐบาล

ทั้งนี้ อินเดียยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากมาตรการที่เข้มงวดดังกล่าว เพื่อป้องกันหายนะที่อาจเกิดขึ้นในประเทศที่มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ขณะที่การเข้าถึงระบบสาธารณสุขของประชากรส่วนใหญ่ยังเป็นไปได้ยาก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า