อินโดนีเซียกำหนดโทษผู้ปฏิเสธวัคซีน อาจเสียค่าปรับหากไม่ร่วมมือ

ชาวอินโดนีเซียที่ผ่านเกณฑ์เข้ารับวัคซีนโควิด-19 อาจโดนลงโทษหากไม่ยอมปฏิบัติตาม

วันที่ 18 ก.พ. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า อินโดนีเซียกำหนดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่รัฐบาลจัดสรรให้ เพื่อเร่งหยุดยั้งการระบาดโดยด่วน

ตามรายงานระบุว่า รัฐบาลสามารถลงโทษผู้ที่ปฏิเสธวัคซีนได้ โดยอาจหยุดหรือระงับการให้ความช่วยเหลือในโครงการต่างๆ บริการของรัฐ รวมไปถึงโทษปรับ ส่วนอัตราโทษนั้นจะให้หน่วยงานท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่เป็นผู้กำหนดเอง

ส่วนใหญ่แต่ละประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนไปแล้วจะใช้ระบบสมัครใจ มีการรณรงค์และให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนแทน แต่จะไม่มีการบังคับให้ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งนับเป็นวัคซีนที่ใช้เวลาพัฒนาแบบเร่งรีบและใช้เวลาสั้นกว่าการพัฒนาวัคซีนทั่วไป

จากการสำรวจเมื่อเดือนกันยายน 2563 พบว่า ประชากรของอินโดนีเซียราว 65% ต้องการที่จะเข้ารับวัคซีน ส่วนที่เหลือยังคงมีความกังวลถึงค่าใช้จ่าย ความเสี่ยงต่อสุขภาพ และสงสัยในมาตรฐานฮาลาลของวัคซีน หลังจากนั้นรัฐบาลได้ประกาศว่าทุกคนสามารถเข้ารับวัคซีนได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ปัจจุบัน อินโดนีเซียฉีดวัคซีนให้ประชากรไปแล้วกว่า 1.7 ล้านโดส โดยใช้วัคซีนของ ซิโนแวค (Sinovac) และจะได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) จำนวน 13.7 – 23.1 ล้านโดส ในเดือนมีนาคม

นอกจากนั้น รัฐบาลอินโดนีเซียยังได้ทำสัญญาสั่งจองโดยตรงกับแอสตร้าเซนเนก้าอีกล็อตหนึ่ง โดยข้อมูลที่ทางบลูมเบิร์กอัพเดตไว้เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ ระบุว่า จะได่รับอย่างเร็วที่สุดในเดือนเมษายน