เปิด อินไซต์คนไทย เล่นมือถือมากกว่าครึ่งวัน โมโหกว่าใครถ้าเน็ตล่ม

เทเลนอร์ เอเชีย (บริษัทแม่ D-tac) เผยผลจากการศึกษา ‘Digital Lives Decoded’ จากการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือมากกว่า 8,000 ราย ในประเทศบังกลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม 

คนไทยมีเข้าถึงโลกออนไลน์มากที่สุดในเอเชียโดยที่คาดการณ์ได้ว่าผู้หญิงจะมีการใช้งานมากขึ้นกว่าผู้ชายเพราะผู้หญิงต้องการสร้างทักษะความสามารถใหม่ๆ ในสายงานหรือริเริ่มธุรกิจ

และยังมีอินไซด์อื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ

• 86% ของคนไทยใช้เวลามากกว่าครึ่งวันบนโทรศัพท์มือถือ และ 83% มีแนวโน้มจะใช้เพิ่มขึ้นอีกใน 1-2 ปีข้างหน้า

• 66% ของธุรกิจในไทยและ 82% ของบริษัทในไทยสนับสนุนการใช้ AI ในการทำงานและเชื่อว่าการใช้ AI ในที่ทำงานจะเพิ่มขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในเอเชีย

• 93% ของคนไทยใช้โทรศัพท์เพื่อจัดการธุรกรรมทางการเงินและหาวิธีรับมือจัดการค่าครองชีพที่สูงขึ้น อาทิ ใช้มือถือเพื่อเปรียบเทียบราคา 74% ค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุด 64% และติดตามการใช้จ่าย 49% 

• 72% ใช้มือถือหารายได้เสริม อาทิ ลงทุนออนไลน์ 55% ขายของในแพลตฟอร์มต่างๆ 40% และผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์ 38%

และการใช้มือถือทำให้คนไทยรู้สึกได้รับข้อมูลข่าวสารและยังเชื่อมต่อการสื่อสารที่ง่ายขึ้นโดยมี

•  57% ใช้ Facebook เป็นแอปพลิเคชันหลักในการเสพข่าวสารและติดต่อ
• กลุ่มคนอายุ 18 ถึง 29 ใช้ TikTok เพื่อเสพข่าวสาร

และเมื่อไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนมือถือได้ผู้ใช้มือถือชาวไทยมีแนวโน้มที่จะรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชีย (เฉลี่ยอยู่ที่ 55%) เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ในด้านสิ่งแวดล้อมการใช้มือถือช่วยผู้คนมีชีวิตที่ยั่งยืนมากขึ้น เช่น การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่งสาธารณะ ลดความจำเป็นในการเดินทางและลดการใช้กระดาษ ซึ่งกว่า 72% ยังตระหนักเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากมือถืออีกด้วย

‘Petter-Børre Furberg’ ‘EVP and Head of Telenor Asia เผยว่า “มือถือกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตของคนไทยมากขึ้น กระแสการใช้งานมือถือเพื่อเข้าสู่โลกดิจิทัลได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงโควิด-19 โดยที่ในปีนี้ผลสำรวจได้สะท้อนให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นซึ่งถึงการใช้มือถือของคนไทย

ทำให้ธุรกิจโทรคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพัฒนาต่อไปเพื่อส่งเสริมการลงทุนในเครือข่ายการเชื่อมต่อ ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ และเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย”