กรุงเทพประกันภัย เดินหน้าปรับโครงสร้าง จัดตั้งบริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH พร้อมนำหุ้น BKIH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทนที่หุ้น BKI
ทางด้าน ‘ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน’ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและเติบโตอย่างก้าวกระโดดผ่านแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ โดยการจัดตั้ง บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company) ในธุรกิจอื่นๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัยที่เป็นธุรกิจหลัก และที่นอกเหนือจากธุรกิจประกันภัย
โดยบริษัทโฮลดิ้งส์จะมีบทบาทในด้านการกำหนดนโยบาย กำกับดูแล และบริหารจัดการกลุ่มธุรกิจให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์โดยรวม ตลอดจนบริหารจัดการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่สร้างประโยชน์ให้ทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน
ด้านความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างนั้น บริษัทฯ จะมีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 6 ตุลาคม 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติแผนการปรับโครงสร้าง และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้น BKIH ซึ่งปัจจุบันได้จัดตั้งบริษัทแล้ว จะดำเนินการยื่นไฟลิ่ง (แบบ 69/247-1) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) เพื่อพิจารณาต่อไป
ซึ่งคาดว่าภายหลังจากสำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติ จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ BKI โดย BKIH จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BKIH เพื่อแลกกับหุ้นสามัญของ BKI ในอัตราเท่ากับ 1 หุ้นสามัญของ BKI ต่อ 1 หุ้นสามัญของ BKIH ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 และภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เสร็จสิ้นแล้ว BKI จะดำเนินการเพิกถอนหุ้นของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ BKIH จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทนที่หุ้นของบริษัทฯ ในวันเดียวกันกับที่หุ้นของบริษัทฯ ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของ BKI ที่เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนหุ้น หรือตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จาก BKIH จะไม่ได้รับผลกระทบทางภาษีใดๆ อันเป็นผลจากธุรกรรมการแลกหุ้น
สำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต ภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้น บริษัทฯ วางแผนจะดำเนินธุรกิจผ่าน 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.กลุ่มธุรกิจหลัก ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย โดยจะมีขนาดสินทรัพย์รวมกันไม่น้อยกว่า 75% ของสินทรัพย์รวมของ BKIH ประกอบด้วย 3 สายงานธุรกิจ ได้แก่
– ธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย (Non-Life Insurance)
– ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ (International Insurance)
– ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย (Insurance Related)
2.กลุ่มธุรกิจอื่น ดำเนินธุรกิจนอกเหนือจากการประกันภัย โดยจะมีขนาดของสินทรัพย์รวมกันไม่เกิน 25% ของสินทรัพย์รวมของ BKIH ซึ่งบริษัทโฮลดิ้งส์จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มจะส่งเสริมธุรกิจประกันภัย และ/หรือธุรกิจที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนและผู้บริโภค
โดย BKIH ในช่วง 2 ปีแรกจะยังไม่การลงทุนและอยู่ระหว่างการศึกษาในธุรกิจต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นแนวทางการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจเกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันหรือธุรกิจที่แตกต่างออกไปได้ทั้งหมด ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจหลากหลายด้าน