อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เผยเทรนด์คนแห่เคลมประกันสุขภาพหลังโควิด-19 ทำสินไหมสุขภาพในตลาดปี 66 เพิ่มสูงขึ้นเฉียด 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายต่อธุรกิจประกัน
‘โทมัส วิลสัน’ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา สินไหมสุขภาพในตลาดเพิ่มสูงขึ้น 36% แบ่งเป็นการเคลมของผู้ป่วยนอกที่เพิ่มขึ้น 20% และการเคลมของผู้ป่วยในที่เพิ่มขึ้น 38%
โดยความถี่และความรุนแรงในการเคลมสินไหมสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มโรคเล็กน้อยทั่วไป (Simple diseases) โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ และการสิ้นสุดของการกักตัวในช่วงโควิด-19
สินไหมสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น ถือเป็นหนึ่งความท้าทายของธุรกิจประกันในปีที่ผ่านมา ประกอบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ไม่ฟื้นคืนอย่างที่หลายคนคาดหวัง และความผันผวนของตลาดเงิน ที่มีผลต่อมูลค่าของสินทรัพย์
อย่างไรก็ตาม อลิอันซ์ อยุธยาฯ ยังสามารถเติบโตได้ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ โดยเบี้ยประกันภัยรับรวม (GWP) เติบโต 6% อยู่ที่ 3.62 หมื่นล้านบาท ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกรายปี (ANP) เติบโต 4% อยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ มาจากช่องทางตัวแทน 3.2 พันล้านบาท ช่องทางขายผ่านธนาคาร 2.4 พันล้านบาท ช่องทางขายตรง 1.4 พันล้านบาท และประกันกลุ่มอีกประมาณ 170 ล้านบาท
ในด้านการขายผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ บริษัทฯ ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุด มีการเติบโตต่อเนื่อง ทำให้อลิอันซ์ อยุธยาฯ ขึ้นแท่นเป็นที่ 3 ในตลาดประกันสุขภาพไทย
นอกจากนั้น ปีที่ผ่านมายังเป็นปีแห่งความสำเร็จของช่องทางตัวแทนของบริษัทฯ มีการเติบโตในทุกมิติ ผ่านโครงการสร้างตัวแทนมืออาชีพในระยะยาว
โดยตัวเลขตัวแทนใหม่ พุ่งสูงถึงกว่า 9,300 คน เติบโตถึง 34% จำนวนตัวแทนที่มีผลงาน (Active Agent) ก็เพิ่มสูงถึงกว่า 3,300 คน เติบโตขึ้น 13% จำนวนผู้บริหารตัวแทนระดับสูงได้รับการเลื่อนตำแหน่งถึง 34 คน ซึ่งถือว่าสูงมาก
ในปี 2566 อลิอันซ์ อยุธยาฯ ยังมีความสำเร็จในด้านของการบริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ มีเงินกองทุนสำรองที่มั่นคงถึง 306%
ในส่วนความพึงพอใจของลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยาฯ ได้รับคะแนน NPS Score ที่ใช้วัดความพึงพอใจลูกค้าอยู่ในระดับ Loyalty Leader และได้คะแนน AES Score ที่ใช้วัดความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร สูงเป็นอันดับ 5 จากบริษัทในเครืออลิอันซ์ทั่วโลก และยังได้รับรางวัลด้านผลิตภัณฑ์จากทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนมากมาย
สิ่งเหล่านี้ช่วยตอกย้ำว่า อลิอันซ์ อยุธยา เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างความพึงพอใจ และความผูกพันทั้งในส่วนของลูกค้าและพนักงาน
สำหรับในปี 2567 นี้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตต่อเนื่อง ด้วยการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมใช้งานระบบบัญชี IFRS 17 ซึ่งเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสำนักงาน คปภ. ซึ่งมีผลดีทำให้บริษัทมีมูลค่าและความั่นคงทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น
ในด้านช่องทางการขาย บริษัทฯ ยังเน้นการเติบโตของช่องทางตัวแทน ยังเดินหน้าจัดทำโครงการที่ประสบความสำเร็จในการสร้างตัวแทนคุณภาพ
ในขณะที่ยังคงมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพ ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ประกันควบการลงทุน เช่น ยูนิตลิงก์ ที่บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายเพื่อให้มีสัดส่วนเป็น 10% ของพอร์ทผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท
นอกจากนั้น บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการบริการ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องการคุ้มครองสุขภาพ โดยได้มีการจัดตั้งเครือข่าย Preferred Network เพื่อทำงานร่วมกับโรงพยาบาล เพื่อมอบบริการพิเศษ ให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมีการเปิดให้บริการพิเศษใหม่ๆ อาทิ บริการ Health concierge เพื่อดูแลลูกค้า นัดแนะและประสานงานกับโรงพยาบาลทั้งก่อนและหลังการเข้ารับการรักษา เป็นต้น
‘ในปี 2567 นี้ เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ อลิอันซ์ อยุธยาฯ สามารถเติบโตธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เป็นแบรนด์ประกันอันดับหนึ่งในใจลูกค้ารวมทั้งสร้างความผูกพันกับพนักงาน’
สุดท้ายนี้ บริษัทฯ พร้อมพิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวม 4.1 หมื่นล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 8.3 พันล้านบาท เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพของไทยได้อย่างมั่นคง