“ถ้าฉันพูดว่าอยู่ไม่ได้แล้วเธอจะกลับมาหรือเปล่า”
หากใครเป็นแฟนคลับของค่าย ‘GeneLab’ อาจจะรู้จักกับเพลงนี้มาเเล้วบ้าง ‘แล้วเธอจะกลับมาหรือเปล่า (Last Call)’ เพลงใหม่ล่าสุดของ ‘แพง เอมปวีณ์ (Pang Aimpavee)’ ศิลปินหญิงมากความสามารถที่เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และยังเป็นศิลปินหญิงคนแรกของค่ายอีกด้วย
ด้วยเสียงหวานๆ ที่มีเอกลักษณ์และแนวดนตรีที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ทำให้ แพงสร้างผลงานที่น่าจดจำไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น มามาไปไป (Herr~), ใครก็ได้ที่ไม่ใช่เธอ, สมมุติว่า (What If…?), เธอทำให้ฉันอยากมีความรัก และอีกหลากหลายเพลง
ครั้งนี้ ‘แพง เอมปวีณ์’ จะมาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของเส้นทางดนตรี จนก้าวสู่การเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวในค่าย GeneLab พร้อมแบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนที่ได้เรียนรู้ รวมถึงความเข้าใจในบทบาทของศิลปินที่เธอได้ค้นพบระหว่างทาง
Q : อะไรคือจุดเริ่มต้นบนเส้นทางดนตรีของ ‘แพง เอมปวีณ์’
แพง เอมปวีณ์ : จุดเริ่มต้นคือ แพงมีความฝันตั้งแต่เด็กคืออยากเป็นศิลปิน เลยเลือกที่จะเรียนดนตรี เพราะอยากศึกษาสิ่งนี้และให้ตัวเองได้อยู่ใกล้กับดนตรี แล้วตอนนั้นแพงต้องทำเพลงส่งทุกเทอม มีโปรเจคจบที่ต้องทำอัลบั้มของตัวเองด้วย เลยตัดสินใจทำเพลง และปล่อยเพลงที่ทำ ก็เลยได้ก้าวมาสู่การเป็นศิลปินอิสระ ที่ทำเองหมดทุกอย่างเลย
Q : เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน Gene Lab ได้อย่างไร
แพง เอมปวีณ์ : แพงทำเพลงมาสักพักแล้ว ก็รู้สึกว่าอยากจะมีค่าย เพราะอยากให้มีคนช่วยผลักดันให้เพลงเราได้ไปไกลมากกว่านี้ และก็มีเรื่องของเงินทุนด้วย เพราะตอนที่เป็นศิลปินอิสระทุกอย่างต้องออกค่าใช้จ่ายเองหมดเลย และที่บ้านก็ช่วยซัพพอร์ต จนเราเกรงใจ
ประจวบเหมาะเห็น GMM เปิดออดิชั่นพอดีค่ะ ช่วงนั้นน่าจะปีะ 2020 ก็เลยลองส่งไปแบบไม่ได้คาดหวัง ปรากฏว่าผ่านรอบออดิชั่นรอบแรกค่ะ จนเข้าไปสู่รอบโชว์ให้กับคณะกรรมการดู และก็ได้มาเซ็นสัญญา
Q : รู้สึกอย่างไรกับการเป็นศิลปินหญิงคนแรกของค่าย Gene Lab
แพง เอมปวีณ์ : จริงๆ แล้วมีเรื่องราวด้วยนะคะ (หัวเราะ) หลังจากที่ แพง ได้ไปโชว์ให้กับคณะกรรมการดู พี่ทีมงาน GeneLab ก็เรียกไปคุย พี่โอม พี่หมี พี่ๆ เขาถามคำถามเราเพื่อทำความรู้จัก แล้วก็มีคำถามนึงที่พี่ๆ เขาถามแพงว่า “มีอะไรจะถามอีกไหม” แพงก็ไม่รู้จะถามอะไรดี เลยถามพี่ๆ เขาไปว่า “พี่จะรับหนูเข้าค่ายไหมคะ”
ซึ่งพี่ๆ ทุกคนก็คุยกับแพงว่า ทางค่ายเองยังไม่มีแพลนที่จะทำศิลปินเดี่ยว แต่พอมาเห็นโชว์ของแพงวันนี้ก็ทำให้รู้สึกว่า “ถ้าปล่อยไปก็อาจจะเสียดายนะ” พี่ๆ เลยขอไปคุยกันก่อนว่าเขาจะทำอะไรกับเราได้บ้าง
หลังจากนั้นไม่นานก็มีทีมงานติดต่อชวนให้ไปดูคอนเสิร์ตของ GeneLab หลังคอนเสิร์ตจบทีมงานก็เชิญ แพง ไปหลังเวที พี่โอมก็บอกว่า “นี่คือศิลปินใหม่ของ GeneLab” ประกาศต่อหน้าศิลปินทั้งค่ายเลยค่ะ ตอนแรกก็งงๆ แต่ก็ดีใจมากค่ะ
Q : อะไรคือคอนเซ็ปต์ของ ‘แพง เอมปวีณ์’ ในฐานะศิลปินของ Gene Lab
แพง เอมปวีณ์ : คอนเซ็ปต์แพงในค่ายเหรอคะ จริงๆแพงก็ยังไม่แน่ใจค่ะ (หัวเราะ) แต่ เมื่อไม่นานมานี้ แพง ได้คุยกับพี่จ๋าย ไททศมิตร พี่จ๋ายเข้ามาแซว แพง ในไลฟ์ TikTok บอกว่า แพง เป็นความร่มเย็นเดียวของค่าย ก็เลยคิดว่าคอนเซ็ปต์ก็น่าจะเป็นความร่มเย็นเดียวของค่ายค่ะ (หัวเราะ)
แพง คิดว่า เพราะวงอื่นจะเป็นเป็นวงร็อคเข้มข้น แนวเพลงดุดัน ไม่เกรงใจใคร แต่ของ แพง คือ ป๊อป เสียงหวานๆ อยู่คนเดียวในค่าย ก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นคอนเซ็ปต์นี้รึเปล่า “ความร่มเย็นของค่าย”
Q : มีเพลงไหนบ้างที่รู้สึกว่าท้าทายหรือร้องยากที่สุดสำหรับตัวเอง
แพง เอมปวีณ์ : จริงๆ แล้วยากทุกเพลงเลยค่ะ (หัวเราะ) ในช่วงแรก แพง ยังอยู่ในขั้นตอนของการหาตัวตนว่า อะไรที่เหมาะกับเรา เพราะแต่ละเพลงที่ออกมา เป็นความชอบของ แพง แทบจะทั้งหมด
แต่ถ้าให้เรียง ความยากอันดับแรก คือ ทำยังไงให้ตัวเองชอบและคนที่ได้ฟังชอบ ต่อมาก็คือความยากของการเล่าเรื่อง แพงไม่รู้ว่าคนอื่นยากไหม แต่ของแพงรู้สึกยากหมด เพราะ แพง อาจจะเป็นคนคิดเยอะ (หัวเราะ)
อย่างเพลงล่าสุด ‘แล้วเธอจะกลับมาหรือเปล่า (Last Call)’ มีความท้าทายทั้งพาร์ทการแสดงและร้อง แพงได้เล่นมิวสิควีดีโอเองด้วย เป็นมิวสิควีดีโอตัวแรกของแพงที่แสดงแบบจริงจังดราม่าสุดๆ ปกติ แพงจะเป็นคนเล่าเรื่องผ่านเสียงเพลง แต่ครั้งนี้ต้องเล่าผ่านเสียงเพลง และผ่านการแสดงด้วย
ส่วนพาร์ทการทำเพลง ก็คงเป็นเรื่องการร้องค่ะ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่ร้องยาก แต่พอผ่านไปได้ด้วยดีก็ภูมิใจค่ะ
Q : เพลงไหนในผลงานของ ‘แพง เอมปวีณ์’ ที่คิดว่านี่แหละคือตัวเองมากที่สุด
แพง เอมปวีณ์ : มีเพลงหนึ่งที่เริ่มจากตัวเองเกือบทั้งหมด ก็คือทั้งร้อง เขียน แต่งเมโลดี้ อัดร้อง ชื่อเพลง ‘เธอทำให้ฉันอยากมีความรัก (Dear You)’ ค่ะ แล้วรวมถึงอัดร้องคุมร้องด้วย คือเพลงนี้แพงอัดเพลงจากที่บ้านในห้องนอนเพราะว่าตอนนั้นพี่โปรดิวเซอร์ไม่สบายค่ะ บวกกับช่วงนั้นต้องรีบส่งเพลงแล้ว เลยต้องทำเอง เลยคิดว่าเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่สนิทมากที่สุดค่ะ
Q : ในฐานะศิลปิน สิ่งที่คุณได้เรียนรู้มากที่สุดคืออะไร
แพง เอมปวีณ์ : ได้เรียนรู้ว่าเราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และก็การกล้าที่จะออกจากคอมฟอร์ทโซน เพราะก่อนหน้านี้แพงเป็นคนคิดเยอะเกินไป รวมถึง ความคาดหวัง และความผิดหวัง ทุกครั้งที่ทำอะไรก็ขอทำให้ดีเต็มที่ที่สุดและเราชอบก็พอใจแล้วค่ะ อีกอย่างที่ได้เรียนรู้คือ การมีอยู่ของคนที่ซัพพอร์ทเรามีความหมายมากค่ะ มันทำให้มีกำลังใจเดินต่อ แพงรู้สึกให้ความสำคัญกับตรงนี้
Q : ฝากข้อความถึงแฟนๆ
แพง เอมปวีณ์ : อยากขอบคุณทุกคนที่มาฟังเพลงของแพง และทุกๆกำลังใจทุกการสนับสนุน มันมีความหมายกับแพงมากจริงๆ แพงจะตั้งใจทำผลงานต่อๆไปออกมาให้ทุกคนได้ฟังกันอย่างเต็มที่ ฝากเพลงด้วยนะคะ ขอบคุณค่า
