รัฐบาลอิหร่านชี้ ‘ศัตรู-โซเชียลมีเดีย’ อยู่เบื้องหลังการลุกฮือประท้วงของกลุ่มนักเรียนหญิงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ที่ออกมาเรียกร้องเสรีภาพและขับไล่ผู้นำ พร้อมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการถอดฮิญาบ หลังเกิดเหตุตำรวจศีลธรรมควบคุมตัวหญิงชาวอิหร่านคนหนึ่งจนเสียชีวิต เพราะสวมฮิญาบแต่มีเส้นผมโผล่ออกมา
.
สื่อท้องถิ่นของอิหร่านรายงานอ้างนายยูเซฟ นูร์รี รัฐมนตรีศึกษาธิการอิหร่าน ที่ออกมาให้ความเห็นกรณีการลุกฮือประท้วงรัฐบาลของกลุ่มนักเรียนหญิงในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งว่า นี่เป็นการโจมตีที่แหลมคมของศัตรู ที่มีเป้าหมายไปยังมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา
.
เช่นเดียวกับนายโมฮัมหมัด จาฟาร์ มอนตาเซรี อัยการสูงสุดอิหร่านที่ระบุว่า การเข้าร่วมประท้วงของบรรดานักเรียนหญิงที่มีอายุประมาณ 16 ปีที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เป็นผลมาจากการใช้โซเชียลมีเดีย
.
ท่าทีออกมาจากรัฐบาลอิหร่าน ทำให้เริ่มมีการจับตาว่า ทางการอิหร่านจะมีมาตรการเข้าถึงโลกออนไลน์ที่เข้มงวดขึ้นหรือไม่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ภาพการประท้วงในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การประท้วงของกลุ่มนักเรียนหญิงกำลังเกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบ
https://twitter.com/1500tasvir_en/status/1577574256241696768
โดยล่าสุด ทวิตเตอร์ @1500tasvir_en เผยแพร่วีดีโอขณะที่กลุ่มนักเรียนหญิงอิหร่าน รวมตัวตะโกนขับไล่ผู้แทนจากกองกำลังความมั่นคงบาซิจ (Basij) ซึ่งถูกเชิญให้ขึ้นพูดหน้าแถวในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนักเรียนได้ตะโกนขับไล่ผู้แทนคนดังกล่าวให้ออกไป และบางส่วนยังตะโกนขับไล่ผู้นำสูงสุดอิหร่านให้ไปตายด้วย
.
สำหรับกองกำลังความมั่นคงบาซิจ เป็นหน่วยความมั่นคงที่เป็นเหมือนกำลังสนับสนุน เพื่อความมั่นคงภายในของอิหร่าน และถูกมองว่า เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบตำรวจศีลธรรม ที่เพิ่งจับกุมหญิงชาวอิหร่านคนหนึ่ง โทษฐานสวมฮิญาบไม่เรียบร้อยจนมีเส้นผมโผล่ออกมา แต่ในภายหลังหญิงที่ถูกตำรวจศีลธรรมควบคุมตัวกลับเสียชีวิต จนกลายเป็นต้นตอของการประท้วงทั้งหมด
.
รายงานล่าสุดจาก Iran Human Rights (IHR) ซึ่งเป็นหน่วยงานสิทธิมนุษยชนในอิหร่านชี้ว่า รัฐบาลอิหร่านได้ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้หญิงทั่วประเทศ จนทำให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 92 คน และมีผู้ถูกจับกุมกว่า 1,000 คน
.
สถานการณ์ในอิหร่านทำให้สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปออกคำเตือนว่า รัฐบาลอิหร่านอาจถูกคว่ำบาตรมากขึ้นจากการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านได้ตอบโต้ท่าทีของชาติตะวันตกว่า อิหร่านจะดำเนินการตอบโต้กลับไปเช่นกัน
.
โดยเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) รัฐบาลอิหร่านเรียกตัวเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำอิหร่านเข้าพบ เพื่อแสดงออกถึงการประท้วงอังกฤษจากพฤติกรรมที่อิหร่านระบุว่าเป็นการก้าวก่าย
.
ก่อนหน้านี้ อยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เปรียบการประท้วงในตอนนี้ว่าเป็นการจลาจล พร้อมชี้ว่าการประท้วงดังกล่าวถูกออกแบบมาโดยสหรัฐฯ และระบอบไซออนนิสต์จอมปลอม ซึ่งเขาหมายถึงอิสราเอล รวมถึงพวกชาวอิหร่านเองที่ทรยศชาติและอยู่นอกประเทศ
.
ที่มา NDTV, Bloomberg, The Guardian, France24