อิสราเอลฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 1 ล้านคนแล้ว มั่นใจ ก.พ.นี้ พ้นวิกฤติโควิด-19

อิสราเอลเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนแล้ว 1 ล้านคนภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์ ขณะที่ผู้นำอิสราเอลมั่นใจเดือนกุมภาพันธ์นี้ อิสราเอลพ้นวิกฤติโควิด-19 แน่นอน

วันที่ 3 มกราคม 2564 เว็บไซต์อัลจาซีรารายงานว่า รัฐบาลอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนไปแล้ว 1 ล้านคน ภายในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ กลายเป็นประเทศที่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนประชาชนเร็วที่สุดในโลก โดยถือว่าทำการฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 10% ของประชาชนทั้งหมดที่มีอยู่ราว 9.3 ล้านคน

รายงานระบุว่า ผู้ได้รับวัคซีนในอิสราเอลมากถึงกว่า 40% ในตอนนี้เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป โดยได้รับวัคซีนที่พัฒนาจากบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค (BioNTech)

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุว่า ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในอิสราเอลเป็นไปอย่างน่าตื่นเต้น และย้ำถึงเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 ประชาชนให้ได้ 5.5 ล้านคน พร้อมประกาศว่า อิสราเอลจะเป็นประเทศแรกในโลกที่พ้นวิกฤติโควิด-19 จากการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจำนวนมากภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ผู้นำอิสราเอลยังกล่าวถึงการฉีดวัคซีนที่ต้องเข้าถึงคนทุกกลุ่ม ทุกเชื้อชาติ โดยเฉพาะพลเมืองอิสราเอลที่มีเชื้อสายอาหรับ ซึ่งมักถูกดูถูกในสังคม โดยชี้ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนเชื้อสายอาหรับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะวัคซีนจะช่วยรักษาชีวิต

ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุขอิสราเอลร่วมยินดีต่อการฉีดวัคซีนในประเทศที่มีความคืบหน้าไปมาก พร้อมเตือนประชาชนที่ได้รับวัคซีนแล้วให้อย่าลืมไปรับวัคซีนโดสที่ 2 ภายในวันเวลาที่กำหนด เพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันอิสราเอลมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมอยู่ที่กว่า 434,000 คน มีผู้เสียชีวิต 3,392 คน โดยสถานการณ์เริ่มกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังพบจำนวนผู้ป่วยต่อวันเพิ่มสูงถึงกว่า 5,800 คนในวันพฤหัสบดี (31 ธ.ค.) และวันศุกร์ (1 ม.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเพิ่มมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทำให้รัฐบาลอิสราเอลบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดอีกครั้ง