อิสราเอลเปิดผลสำรวจ ผู้ป่วยแสดงอาการลดลง 94% หลังได้รับวัคซีนโควิดของไฟเซอร์

องค์กรการดูแลสุขภาพในอิสราเอลชี้วัคซีนของไฟเซอร์ได้ผลจริง ในการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1.2 ล้านคน

วันที่ 14 ก.พ. 2564 หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เดอะไทม์ออฟอิสราเอล (The Time of Israel) รายงานผลสำรวจจาก Clalit Health Services HMO ที่ชี้ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดย ไฟเซอร์ (Pfizer) และ ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยแสดงอาการของโรคได้ 94% และยับยั้งอาการป่วยขั้นรุนแรงได้ 92%

โดยข้อมูลนี้มาจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1.2 ล้านคน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนแล้ว 600,000 คน และกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 600,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยทำการศึกษามา นับเป็นการยืนยันผลการทดสอบจากผู้พัฒนา ว่าสามารถนำมาใช้ได้ในสถานการณ์จริง

นายแพทย์แรน บาลิเซอร์ นักระบาดวิทยาที่กำหนดนโยบายให้ Clalit Health Services เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอลว่า นับเป็นครั้งแรกที่ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เพื่อดูว่าวัคซีนนั้นใช้ได้จริงตามที่ผลการทดสอบระบุไว้หรือไม่

ในผลการทดสอบเฟส 3 ของไฟเซอร์ระบุว่า วัคซีนของพวกเขามีประสิทธิภาพอยู่ที่ 95% ในวันที่ 28 นับจากวันที่ได้รับวัคซีนโดสแรก

ผลการศึกษายังยืนยันว่า วัคซีนตัวนี้สามารถป้องกันการเกิดอาการป่วยขั้นรุนแรงในผู้ที่มีอายุสูงกว่า 70 ปีได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางไฟเซอร์ยังมีข้อมูลการทดสอบของกลุ่มประชากรดังกล่าวไม่เพียงพอ

จนถึงเมื่อวานนี้ อิสราเอลได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชากรไปแล้ว 3.8 ล้านคน จากประชากรราว 9.3 ล้านคน โดยมีถึง 2.5 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนทั้ง 2 โดสแล้ว