เปิดประวัติ ‘คิมซูฮยอน’ พระเอกหล่อ สุดอบอุ่น นักแสดงตัวท็อปเกาหลีใต้

ถ้าพูดถึงซีรีส์เกาหลีในนาทีคงหนีไม่พ้นเรื่อง It’s Okay to Not Be Okay ที่ได้รับความนิยมเเละถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อเรื่องที่บอกเล่าความเจ็บช้ำในจิตใจของตัวละคร เสน่ห์ของนักแสดงนำทำให้มัดใจคนดูอยู่หมัด โดยพระเอกของเรื่องอย่าง ‘คิมซูฮยอน’ กับบทบาท ‘มุนคังแท’ เจ้าหน้าที่หนุ่มดูเเลผู้ป่วยจิตเวชที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ และมีพี่ชายป่วยเป็นออทิสติก ด้วยการแสดงที่เข้าถึงบทบาทของคิมซูฮยอนทำให้แฟนๆต่างตกหลุมรัก คิมซูฮยอนในบทบาท มุนคังแท ได้ไม่ยาก

ในวัยเด็กของ คิมซูฮยอน เป็นคนค่อนข้างเงียบ จนคนในครอบครัวไม่คาดคิดว่าตัวเขาเองจะกลายมาเป็นนักแสดง ซึ่งสิ่งที่ทำให้คิมซูฮยอนเปลี่ยนความคิดคือการได้มีโอกาสเล่นละครของโรงเรียน ซึ่งเรื่องแรกเป็นละครเพลงนั่นก็คือ Grease และ A Midsummer Night’s Dream ทำให้เขาตกหลุมรักการแสดงเเละมีความฝันอยากจะเป็นนักแสดงเรื่อยมา จนตัดสินใจเข้าเรียนด้านสาขาภาพยนตร์และการละคร ที่มหาวิทยาลัยจุงอัง วิทยาเขตโซล

คิมซูฮยอนเริ่มเข้าสู่วงการในปี 2007 ด้วยอายุเพียง 19 ปีกับการเป็นตัวประกอบในซีรีส์เรื่องเเรก Kimchi Cheese Smile ก่อนที่จะมีผลงานมาเรื่อยๆ เเละมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานภาพยนตร์ พิธีกร ผลงานเพลง เเละเอ็มวี รวมไปถึงผลงานโฆษณาต่างๆ แต่สำหรับผลงาน 5 ซีรีส์ เเละ 3 ภาพยนตร์ที่ทำให้แฟนๆ ต่างตกหลุม คิมซูฮยอน ทั้งหน้าตาและความสามารถของเขายิ่งกว่าเดิม

Dream High (มุ่งสู่ดาว ก้าวตามฝัน) ปี 2011

ผลงานเรื่องนี้อาจไม่ใช่ผลงานเรื่องแรกของ คิมซูฮยอน แต่ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เขาเริ่มกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในความสามารถด้านการแสดงของเขา กับซีรีส์ที่ครองใจวัยรุ่น

Dream High มีความยาวทั้งหมด 16 ตอน เเละตอนพิเศษอีก 1 ตอน ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กม.ปลาย 6 คนที่ต้องการมุ่งสู่ความฝันในวงการบันเทิง โดยการเข้าเรียนในโรงเรียนสอนศิลปะการแสดงคิริน ที่รวมความสามารถไว้หลากหลาย ทั้งร้อง เต้น เเละการแสดง

ในเรื่องนี้ คิมซูฮยอน รับบทเป็น ซงซัมดง เด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่ในชนบทกับแม่ 2 คนเพียงลำพัง จนได้มาพบเเละตกหลุมรักกับ โกฮเยมี รับบทโดย แพคซูจี (อดีตสมาชิกวง MissA) ก่อนจะมีโอกาสได้เข้าเรียนในโรงเรียนคิริน และค้นพบความสามารถของตัวเองในด้านดนตรี

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ คิมซูฮยอน เป็นนักแสดงนำเพียงคนเดียวที่ไม่มีประสบการณ์ในวงการ K-POP เเละไม่ได้เป็นไอดอล โดยในซีรีส์เขายังได้โชว์ทักษะด้านการร้องเพลงประกอบซีรีส์ ทั้งเพลง Love High ร่วมกับ  ซูจี (อดีตสมาชิกวง MissA), แทคยอน และ อูยอง (สมาชิกวง 2PM), และ จู (ศิลปินเดี่ยว) รวมไปถึงผลงานเพลงเดี่ยวอย่าง Dreaming ด้วยเช่นกัน

The Moon That Embraces The Sun (ลิขิตรักตะวันและจันทรา) ปี 2012

คิมซูฮยอน โด่งดังเป็นพลุแตกเรียกได้ว่าเข้าขั้นซุปตาร์กับซีรีส์เเนวย้อนยุคแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์ The Moon That Embraces The Sun ที่ถูกสร้างมาจากนวนิยายเรื่อง จันทราโอบอาทิตย์ ของนักเขียน จองอึนกวอล ประกบคู่กับนางเอกรุ่นพี่อย่าง ฮันกาอิน ซึ่งได้รับเรทติ้งสูงสุดถึง 42.2% มีความยาว 20 ตอน เเละ 2 ตอนพิเศษ

เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงราชวงศ์โชซอน พระเจ้าอีฮวอน (ไม่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์) ต้องสูญเสียหญิงสาวชื่อ โฮยอนอู ที่เพิ่งจะได้แต่งตั้งเป็นพระชายา เมื่อครั้งเป็นองค์ชายรัชทายาทเพี่ยงไม่กี่วัน ก่อนที่ต่อมาเวลาล่วงเลยมานานกว่า 8 ปี ในขณะที่ พระเจ้าอีฮวอนปลอมตัวเป็นสามัญชน เเละได้พบกับหญิงสาวคนหนี่งซึ่งเป็นธิดาเทพ แต่เธอไม่มีชื่อ พระเจ้าอีฮวอนจึงตั้งชื่อให้ธิดาเทพคนนั้นว่า วอล หมายถึง ดวงจันทร์ โดยไม่รู้เลยว่า ธิดาเทพวอลคือ โฮยอนอู พระชายาที่เสียไปเมื่อ 8 ปีก่อน

นอกจากนี้ คิมซูฮยอน ยังได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้ในชื่อว่า The One and Only You  เป็นแนวเพลงบัลลาด ซึ่งเพลงนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนขึ้นชาร์ทเพลงของเกาหลีใต้เเละชาร์ทเพลงดิจิทัล รวมไปถึง คิมซูฮยอน ยังได้รับรางวัล Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 48 ในสาขา Best Drama Actor ถือเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของวงการบันเทิงเกาหลีใต้

ความสำเร็จของซีรีส์ The Moon That Embraces The Sun ทำให้คิมซูฮยอนได้กลายเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณากว่า 17 ตัว เเละได้รับเงินจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ถึง 5.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 166,011,900 บาท ทำให้ คิมซูฮยอน ติดหนึ่งในผู้ที่ทำรายได้มากที่สุดในเกาหลีใต้

My Love From the Star (ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว) ปี 2013-2014

ซีรีส์เรื่องนี้โด่งดังเป็นพลุเเตกไปทั่วเอเชีย เเละยังถูกนำไปรีเมคอีกหลายประเทศอย่าง My Love From the Star คิมซูฮยอนรับบทเป็น โทมินจุน มนุษย์ต่างดาวที่ติดอยู่บนโลกมนุษย์มานานกว่า 400 ปี ประกบคู่กับนางเอกชื่อดังตัวแม่อย่าง จวนจีฮุน มีความยาวทั้งหมด 21 ตอน ซึ่งมีเรตติ้งสูงกว่า 24.02% ขณะที่เว็บ iQiyi ของประเทศจีนมีผู้เข้าชมสูงกว่า 2 พันล้านคน

โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ต่างดาว โทมินจุน (รับบทโดย คิมซูฮยอน) ที่ติดอยู่บนโลกมนุษย์มากว่า 400 ปี ก่อนจะได้มาพบกับ ซูเปอร์สตาร์สาวแสนสวย ซอนซงอี (รับบทโดย จวนจีฮุน) ที่มีนิสัยแปลกๆ จนก่อให้เกิดเรื่องราวมากมายทั้งในอดีตเเละปัจจุบัน

คิมซูฮยอน กลายเป็นซุปตาร์เต็มตัว จนทำให้ทางต้นสังกัดอย่าง KeyEast ได้จัดงานเเฟนมีตติ้งครั้งแรกขึ้นใน 8 เมือง 6 ประเทศในแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ทั้งนี้ คิมซูฮยอนยังเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ถูกรับเชิญให้เข้าร่วมในพิธีเปิดการเเข่งขัน เอเชียนเกมส์ 2014 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้

The Producers (โปรดิวเซอร์หน้าใสหัวใจกุ๊กกิ๊ก) ปี 2015

ซีรีส์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ วาไรตี้ บันเทิงที่เล่าเรื่องราวเบื้องหลังที่เกิดขึ้นในวงการโทรทัศน์  คิมซูฮยอน รับบทบาทเป็น โปรดิวเซอร์ประจำรายการวาไรตี้หน้าใหม่ ซึ่งเขาเรียนจบด้านกฎหมายและพ่อแม่ต้องการให้ตัวเขาเป็นอัยการ แต่เขากลับผันตัวมาทำงานด้านโปรดิวเซอร์เพราะความรัก โดยในเรื่องนี้คิมซูฮยอนต้องพลิกบทบาทปรับลุกตัวเองให้กลายเป็นคนซึน พูดติดอ่าง และดูไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยแม้เเต่น้อย

The Producers ถูกผลิตขึ้นโดยทีมงานจากแผนกวาไรตี้ ซึ่งทุกรายการที่ถูกกล่าวผ่านซีรีส์ล้วนมีอยู่จริง แม้ในช่วงตอนแรกที่ลงจอฉายนั้น จะได้รับการวิพากย์วิจารณ์ในด้านลบเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง ก่อนที่สุดท้ายจะมีการปรับเปลี่ยนผู้กำกับจนกลับมามีกระแสใหม่อีกครั้ง

นอกจากซีรีส์เเล้ว คิมซูฮยอน ยังมีผลงานภาพยนตร์อีกมากมาย แต่มีภาพยนตร์ 3 เรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ซึ่งใครเป็นแฟนตัวยงของ คิมซูฮยอน ถือว่าไม่น่าพลาด

อย่างภาพยนตร์เรื่องแรก The Thieves 10 (ดาวโจรปล้นโคตรเพชร) ปี 2012 หนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 8 ในประวัติศาสตร์เกาหลี ซึ่งยอดขายตั๋วสูงกว่า 12.9 ล้าน คิมซูฮยอนถูกพูดถึงเป็นอย่างมากกับการเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในแก็งโจรเรื่องนี้

ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 คือ Secretly, Greatly (แผนลับสุดยอด) ปี 2013 เป็นภาพยนตร์ แนวแอคชั่น คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องราวชีวิตสายลับเกาหลีเหนือที่ต้องมาปลอมตัวเป็นหนุ่มบ้าเเละใช้ชีวิตอยู่ในเกาหลีใต้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เคยทำลายสถิติ Box office ในเกาหลีใต้ เนื่องจากทำรายได้สูงสุดตั้งแต่ที่เปิดตัววันแรก 

ภาพยนตร์เรื่อง Real ปี 2017 เป็นเรื่องสุดท้ายก่อนที่ คิมซูยอน จะเข้าไปรับใช้ชาตินานถึง 2 ปี ประกบคู่ซอลลี่ (อดีตสมาชิกวง f(x)) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องจัดอยู่ในเรต 18+ ด้วยเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างรุนแรง เเละฉากเลิกซีน แม้คิมซูยอนจะได้รับคำชมเรื่องการแสดงที่เข้าถึงบทบาท แต่น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ที่ทั้งดีเเละไม่ดีเกี่ยวกับเนื้อเรื่องเช่นกัน

It’s Okay to Not Be Okay ปี 2020

ผลงานเรื่องล่าสุดของ คิมซูฮยอน และถือเป็นการคัมแบ็กซีรีส์ในรอบ 5 ปี กับบทบาท มุนคังแท เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวช ผู้ไม่ศรัทธาในความรัก ขณะที่ทั้งชีวิตของมุนคังแททุ่มเทไปกับการดูเเลพี่ชายที่อายุห่างกัน 8 ปี ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก จนโชคชะตาพาเขามารู้จักกับ โกมุนยอง (ซอเยจี) นักเขียนวรรณกรรมเด็กที่มีนิสัยเย่อหยิ่ง ไม่สนใจความรู้สึกคนรอบข้าง ซึ่งทั้งคู่ต่างมีบาดเเผลที่อยู่ในใจที่ต้องใช้เวลาเเละเยียวยากันไปทีละเล็กทีละน้อย ขณะที่ซีรีส์ออนแอร์ในตอนแรกก็ได้รับเรตติ้งสูงถึง 6.093% ทั่วประเทศเกาหลีใต้ เเละ 7.036% ในกรุงโซล

ซึ่งผลงานที่ผ่านมาของ คิมซูฮยอน การันตีได้ถึงการแสดงที่มากคุณภาพ ถึงแม้ว่าเขาจะหายไปรับใช้ชาตินานกว่า 2 ปี ก่อนจะกลับมาลงจออีกครั้งในซีรีส์เรื่อง It’s Okay Not to Be Okay ก็ได้รับกระแสตอนรับจากแฟนๆดีเกินคาด หากใครอยากรู้ว่าเรื่องราวของซีรีส์จะสนุกและช่วยบำบัดความทุกข์ได้ดีขนาดไหน สามารถติดตามรับชมได้แล้วทาง Netflix ออกอากาศตอนใหม่ทุกคืนวันเสาร์เเละอาทิตย์