ซีอีโอทวิตเตอร์โดนแฮกบัญชีทวิตเตอร์

บัญชีทวิตเตอร์ของเจ็ก ดอร์ซี ผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอของทวิตเตอร์ถูกแฮกเกอร์ยึด โดยมีการทวีตข้อความเหยียดชาติพันธุ์และปลุกปั่นเป็นเวลานานกว่า 15 นาที บัญชีทวิตเตอร์ของดอร์ซี มีผู้ติดตามกว่า 4 ล้านคน

ทวิตเตอร์ประกาศว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากความผิดพลาดของระบบ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “เบอร์โทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับแอคเคาท์บังเอิญทับซ้อนกันเนื่องจากช่องว่างในระบบความปลอดภัยของผู้ให้บริการโทรศัพท์”

ก่อนหน้านี้ทวิตเตอร์เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทวีตผ่านระบบส่งข้อความปกติของโทรศัพท์มือถือได้โดยใช้การยืนยันเพียงแค่เบอรืโทรศัพท์ที่ผูกอยู่กับบัญชี

“นี่เป็นเหตุให้คนที่ไม่ใช่เจ้าของแอคเคาท์ได้โอกาสสวมรอยและทวีตผ่านระบบส่งข้อความทางเบอร์โทรศัพท์ ปัจจุบันปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว”

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่าเทคนิกการแฮ็กแบบนี้เรียกว่า “simswapping” หรือ “simjacking(ปล้นซิม)” เกิดจากการที่นำเบอร์ที่ผูกกับบัญชีทวิตเตอร์เป้าหมายถ่ายโอนข้อมูลมาที่ซิมใหม่ โดยต้องอาศัยความร่วมมือของคนในบริษัทให้บริการโทรศัพท์

ตลอดเวลา 15 นาทีที่ถูกแฮ็ก มีการโพสต์และรีทวีตข้อความแสดงความเกลียดชังชนชาติยิว ทวีตว่ามีการวางระเบิดที่สำนักงานใหญ่ทวิตเตอร์

ภายหลังกลุ่มที่เรียกตนเองว่า “Chuckling Squad” กล่าวว่าอยู่เบื้องหลังการแฮ็กนี้ โดยกลุ่มดังกล่าวอ้างว่าตนอยู่เบื้องหลังการแฮกทวิตเตอร์ที่โด่งดังมาหลายบัญชี เช่น ทวิตเตอร์ของ เจมส์ ชาร์ล และ เดสมอนด์ อาโมฟาห์ ยูทูปเบอร์ชื่อดัง

หนังสือพิมพ์ LA Times แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมาทวิตเตอร์ทุ่มเงินพัฒนาระบบความปลอดภัย แต่การแฮกครั้งนี้มาจากความผิดพลาดภายนอกบริษัท ขณะที่ทวิตเตอร์เป็นช่องทางสื่อสารสำคัญของผู้นำหลากหลายประเทศ

ส่วน The Verge เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีชื่อดังรายงานว่าทวิตเตอร์ของแจ็ค ดอร์ซี เคยถูกแฮ็กมาก่อนในปี 2559 โดยบริษัท OurMine ซึ่งทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้เผยแพร่ข้อความว่า “เช็กระบบความปลอดภัย” และเพิ่มลิงค์เข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัท OurMine