SHARE

คัดลอกแล้ว

คนยุค analog หรือคนยุค 90 ต่อเนื่องถึงคนยุค 2000 ไม่มีใครไม่รู้จัก ‘ร้านเจ้เล้ง’ แห่งดอนเมือง

เพราะถ้าใครอยากได้สินค้าต่างประเทศสมัยหนึ่งก็ต้องไปหาซื้อที่ ‘ร้านเจ้เล้ง’

ร้านเจ้เล้ง มี เจ้เล้ง – อารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล เป็นเจ้าของ

ในยุครุ่งเรืองร้านเจ้เล้งทำรายได้ต่อปีหลายร้อยล้านบาท จนถูกพูดถึงกันว่าเป็น “ค้าปลีกพันล้าน”

รายการ TOMORROW โดย TODAYBizview ชวน ‘เจ้เล้ง’ มาคุยถึงบรรยากาศเศรษฐกิจยามนี้ ซึ่งเจ้เล้งบอกว่า ยุคนี้สงสารคนรุ่นใหม่

“สมัยก่อนตั้งตัวง่ายกว่าตอนนี้ เหมือนเจ้เล้ง มาจากคนจนนะ เจ้เล้งขายของอยู่กลางตลาดอายุ 9 ขวบ ขายของหน้าโรงหนัง พอกลับจากโรงเรียนบ่าย 3 บ่าย 4 โมง เข็นรถเข็นมาขายขนม หน้าโรงหนัง จนถึง 3 ทุ่มครึ่ง กลับบ้านนอน”

“ระหว่างที่ขายก็นั่งทำการบ้านตรงนั้น รับจ้างสอนการบ้าน รับจ้างทำการฝีมือใครจ้างทำอะไรทำหมดเลย หาเงินได้ตั้งแต่เด็ก”

“สมัยก่อนโอกาสมันมาก มีโอกาสเยอะกว่า แล้วโอกาสคนทำมาหากินสมัยก่อนแบบเจ้เล้งนี่พุ่งเร็ว เพราะคว้าโอกาสไว้ แต่เดี๋ยวนี้น่าจะไม่ค่อยได้แล้ว เพราะมันขาย (ออนไลน์) ได้ทุกช่องทาง แต่บังเอิญเราทำแบบไม่ซ้ำกับเขาเลยอยู่รอด ถ้าทำซ้ำกับเขาอยู่ไม่ได้หรอก หักค่าใช้จ่ายแล้วไม่เหลือ”

[ เจ้เล้งขายยังไงยุคออนไลน์แซง ]

ในยุคที่ออนไลน์เข้ามาตีตลาด เจ๊เล้งบอกร้านก็มีช่องทางโซเชียลมีเดีย และมีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเอง ไม่ยอมไปอยู่ในร่มของอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ๆ เหมือนเจ้าอื่น เพราะจะถูกเก็บค่าคอมมิชชั่น

“ทั้งร้านนี่ขายออนไลน์หมด แต่เราไม่ได้เข้าสังกัดใคร เรามีแอปของเราเอง แอปเราไม่ได้เข้าร่วมกับตลาดใหญ่ ที่ขายออนไลน์ชื่อนู้นชื่อนี้ ไม่เอา…เพราะมันต้องจ่ายคอมมิชชั่นให้เขาอีกกี่เปอร์เซ็นต์ ซื้อในนั้นก็จะแพงกว่ามาซื้อตรงกับเจ้าของเอง”

“ร้านเจ้เล้งมี โซเชียลมีเดียสร้างคอนเทนท์เฉยๆ ไม่ได้ไปขายอะไรกับเขา แต่เพื่อให้คนรู้จักเยอะขึ้น”

[ ถึงจุดแตกไลน์ธุรกิจ ]

จากรายได้เดือนหลายร้อยล้าน แต่แล้ว “ร้านเจ้เล้ง” ก็มาถึงจุดเปลี่ยนธุรกิจ

เจ้เล้ง แตกไลน์ธุรกิจจากค้าปลีก ขายสินค้าจากต่างประเทศ มาทำอาพาร์ทเมนต์ให้เช่า

เจ้เล้งดูแล้วต่อไปธุรกิจซื้อมาขายไปแย่ ไม่ยั่งยืน จึงหันไปทำอพาร์ทเม้นต์ เห็นสัญญาณตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว คนไม่มีเงินจะซื้ออีก ร้านเจ้เล้ง คนซื้ออยู่ในระดับบีบวก ตอนนี้บีบวกก็หนี้สินล้นพ้นตัว”

“จริงๆ ค้าขายกับบ้านเช่า ค้าขายดีกว่า ลงทุน 100 วันหนึ่งหมุน 100 ครั้ง ถ้าขายดี แต่บ้านเช่าเดือนละครั้งเอง แต่ก็ดีกว่ามาเสี่ยง”

“บ้านเช่า เป็นสินทรัพย์ เป็นมูลค่าที่เพิ่มไปเรื่อยๆ แต่ต้องมีเงิน ถ้ากู้ก็ได้ถ้าทำเลดี กู้ผ่อนได้ถึง 10 ปี ได้ทุนคืน แต่ถ้าทำเลไม่ดี เงินก็หมด ที่ก็หมด ทุกอย่างก็หมด ไม่ใช่มันง่าย อย่าซี้ซั้วทำ”

เจ้เล้ง เลือกทำอาพาร์ทเมนต์ เพราะคู่แข่งน้อย ไม่ต้องตามเหตุการณ์ ไม่ต้องเหนื่อย

“ค้าขายต้องตามเหตุการณ์ให้ทัน ไม่งั้นก็จะตามไม่ทันเขา ค่าใช้จ่ายก็เยอะพนักงานเท่าไหร่ อพาร์ทเมนต์พันกว่าห้อง เกือบ 2 พันห้อง ค่าใช้จ่ายไม่มี ใช้เงินสดลงทุน ทำให้ไม่มีดอกเบี้ย แล้วไม่มีคู่แข่ง”

“แต่สำคัญคือ แข่งกับตัวเอง แข่งกับความสะอาด แข่งกับความปลอดภัย แค่นั้น บริการแทบไม่ต้องเขาดูแลเขาเอง เรื่องทำความสะอาดใช้เอาท์ซอร์สมาทำ ยกเว้นช่าง ฝึกช่างเอง เอาคนต่างชาติมาทำ แล้วใช้คนไทยฝึก ขัดเกลาให้มีระเบียบ”

[ คำเตือนการลงทุนจากเจ้เล้ง ]

เจ้ออกโรงเตือนคนรุ่นใหม่ว่า ถ้าคิดจะซื้อคอนโดปล่อยเช่า เจ๊ขอเตือน!

“ใครๆ ก็ปล่อยเช่า มีเงินเดือน 28,000 ซื้อ 2 ห้องเลย ทำไมแค่นี้ซื้อได้ เพราะเครดิตดีจึงซื้อ และคิดว่าปล่อยเช่า แต่ถ้าวันหนึ่งไม่มีคนเช่าทำยังไง ใหม่ๆ เขาเช่า แต่เก่าเขาไม่เอาแล้ว”

และยังเตือนอีกว่า ไม่แนะนำให้เด็กรุ่นใหม่ลงทุนถ้าบ้านไม่รวย

“ตอนนี้อันตรายไม่แนะนำให้ลงทุนเลยเพราะว่า โลกมันเปิดกว้างใครๆ ก็มีความสามารถ ถ้าเราอยากจะเป็นเจ้าของกิจการ จะเรียกว่าเก็บไว้ก่อน”

“ลงทุนอะไรดีล่ะ บางคนบอกกองทุนดีไหม คนที่ฝากธนาคาร จะมีเด็กธนาคารจะมาตื๊อทุกวัน เอ่อพี่คะฝาก 5 ปีเอง อย่างงั้นอย่างงี้ แต่ดูต่อให้จบ 5 ปีเสร็จแล้วกว่าจะได้เบิกเงินก้อนนั้นอีก 15 ปี ต้องไปเบิกชาติหน้าแล้วมั้ง ชาตินี้ไม่ทันใช้แล้ว”

“อย่าเพิ่งลงทุนอะไรเลย ประหยัดที่บอกให้คือประหยัด นอกจากคุณจะมีจังหวะและโอกาสจริงๆ ก็ต้องดูโอกาสนั้นอะไรที่มันฮิตฮอตแล้วตรงเป๊ะพอดี พ่อแม่รวยก็ทำธุรกิจได้มันต่อเนื่องกันไป แต่ถ้าพ่อแม่ไม่รวยความหวังอยากจะมาทำธุรกิจเอง ถ้าไม่มีท่านอยู่เลยอย่าเพิ่งคิด ไปทำงานเรียนรู้ก่อน ว่าสังคมรอบตัวอยู่ได้ยังไง ธุรกิจมาจากตรงไหนเงินมายังไง”

“พอเราเรียนรู้แล้วเราอยากทำแล้วค่อยไปทำ โอกาสนี่คนจนก็มีโอกาสนะ แต่ต้องมีเงินหน่อย มีฐานก่อน แล้วค่อยทำทีละน้อยๆ ไม่ใช่พอจบมาใหม่ๆ วันนี้ต้องนัดกินข้าว ต้องเป็นร้านดัง เหมาร้านเลย ตรงนี้อย่าเพิ่งเรียนรู้ สิ่งที่เรียนรู้ คือ ชีวิตต่อไปจะทำยังไง บริษัทที่เราเป็นลูกจ้างเขา โอ้โหองค์กรนี้รวย เงินมาจากไหน ยอมเป็นขี้ข้าเขาไปก่อน เรียนให้รู้แล้วค่อยๆ ฝึก”

“เจ้เล้งก็เรียนมาจากการ ครูพักลักจำ สมัยก่อนเป็นคนทำธุรกิจก็จน มองเห็นบ้านนี้รวยจังเลย เขาทำยังไง เข้าไปเรียนรู้ ทำทีละนิด ทำทีละสิบแล้วค่อยๆ โต อย่าเพิ่งเหิม คิดเป็นเจ้าของกิจการ คิดยังไงให้อยู่รอดก่อน”

เพราะ “เจ้เล้ง” มองว่า เมืองไทยเปิดโอกาสให้คนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจ บอกว่าเขาจะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้เริ่มคิดผิดล่ะ เพราะตอนนี้คนจีนมาเปิดโรงงานในไทยเยอะมาก เปิดบริษัทปั๊บสามารถซื้อที่ดินได้เลย ไม่ต้องนอมินีเพราะเป็นบริษัท

พอเปิดโรงงานปั๊บ ไม่ได้เอาแรงงานไทยเลยเอาคนเอ็มโอยูมาจากประเทศเข้ามาทำเลย เด็ดกว่านั้นเขาซื้อมหาวิทยาลัยเมืองไทย ที่คนจีนเรียนหมด ไม่มีคนไทย สร้างหอพักให้นักเรียนเช่าเลย ให้อยู่ในวงตัวเอง

แต่ให้เรียนภาษาไทยส่วนหนึ่ง เพราะเมื่อโรงงานมาเปิด เอกสารต้องเป็นภาษาไทยส่วนหนึ่ง ดังนั้น นักเรียนจีน อ่านภาษาไทย เขียนภาษาไทยได้ อ่านกฎหมายได้ ส่วนเรียนเรื่องเทคนิค วิศวกรรม ที่วิศวะ ม.ลาดกระบัง เต็มเลย เขาไม่เรียนแล้ว เอแบค ภาษาอังกฤษเขาไม่เรียน พวกเขาเรียนภาษาไทยเลย

“ต่อไปนี้จริงๆนะเด็กรุ่นใหม่ ถ้าไม่มีสติน่ะเอาแต่วาดฝัน ความอยากมันเยอะ แต่โอกาสมันน้อย แต่ก็มีบางคนก็เก่งมากเลยก็มีนะ เก่งแบบถูกทางที่จะเห็นแป๊บเดียวได้เงินเลย”

ให้ “เจ้เล้ง” ให้คะแนนความลำบากคนไทยจาก 1 ถึง 10 เธอในวัย 70 เศษๆ ตอบทันที “ตอนนี้ 11 แล้วล่ะ ถ้าก็ 10 บวก แต่ทุกที่ก็เหมือนกันห้าง ฮ่องกง อเมริกา ปิดหมด”

แล้วถ้า “เจ้เล้ง” ได้เป็นนายกฯ สิ่งแรกที่จะทำคืออะไร ?

เธอตอบว่า จะเรียกสถาบันการเงินมาทุบ!

มาทุบ แล้วเคลียร์หนี้สถาบันการเงินให้หมด ตัดดอกออกหมด เอาแต่เงินต้นแล้วให้มาผ่อน ธนาคารไม่ได้ขาดทุน เขาได้ไปแล้ว เกินคุ้มแล้ว แค่นั้นแหละ ลูกหนี้ฟื้นขึ้นทันที และต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้มีโอกาสต่อไป

“คือ หนึ่งกู้ไม่ได้ หรือ กู้ได้ต้องมีบัตรแค่ใบเดียว บัตรใบเดียวกู้ยังไงก็ไม่เจ๊งหรอก” เจ๊เปิดลิ้นชักขึ้นมาเอาบัตรของลูกน้องขึ้นมาโชว์ แล้วบอกว่าคนเดียว 7 ใบ

ใบแรกเห็นตกใจทำไมเกิดอะไรขึ้น คนนี้รายได้เดือนละ 7-8 หมื่นบาท เพราะได้ค่าคอมมิสชั่นเยอะ เงินเดือนน้อยแต่คอมมิสชั่นเดือนละแสน (ซึ่งสมัยก่อนได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้ แต่ทำไมยังมีหมายศาล

ถามว่าตังค์ไปไหนหมด ลูกน้องบอกว่าพี่อยากได้ น้องอยากได้ กูไม่พอกดเงินสดให้ไปเลย มันก็เริ่มพัน คิดดูคนหนึ่ง กดเงินสดผ่านบัตร 10 ใบใบละ 50,000 เอา 500,000 ไปให้แม่ แม่อยากปลูกบ้าน 500,000 พี่อยากซื้อรถ 200,000 ให้ แล้วตัวเองกดเงินสดดอกเบี้ยเงินสดเท่าไหร่อ่ะ ผ่อนทุกเดือน กี่ใบล่ะ เคลียร์ไม่ออกหรอก เป็นหนี้ไม่ว่า แต่หมดอนาคตเรื่องใหญ่

พอเป็นหนี้ เขาฟ้อง เมื่อฟ้องสำเร็จต้องผ่อนเขา ไม่มีจะผ่อน ผ่อนไม่ได้ก็ต้องออกจากงาน เป็นบุคคลล้มละลาย ก็ต้องไปทำงานนอกระบบ กินเงินเดือนขั้นต่ำสุด

“นี่คือฆ่าเขาทั้งเป็น เงินเดือนหมื่นกว่า แต่กู้ได้เป็น 50 เท่า แบงก์ให้ได้อย่างไร” เจ้เล้งกล่าวในที่สุด

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า