วันที่ 22 เม.ย. สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการในรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า อาจเกิดคลื่นยักษ์สึนามิความสูงถึง 30 เมตร พัดถล่มจังหวัดฮอกไกโด ทางเหนือของประเทศ และจังหวัดอิวาเตะ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หากเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 9 ตลอดแนวร่องลึกก้นสมุทรนอกชายฝั่งมหาสุทรแปซิฟิก
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญออกคำเตือนโดยอ้างอิงมาจาก “กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้” และกล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่มีจุดศูนย์กลางโดยรอบ”ร่องลึกญี่ปุ่น” (Japan Trench) และ “ร่องลึกคูริล” (Kuril Trench) ทางตอนเหนือของประเทศ “อาจใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว”
โดยคาดว่า เมืองมิยาโกะ ในจังหวัดอิวาเตะ จะได้รับความเสียหายจากสึนามิที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ถึง 29.7 เมตร ตามมาด้วยเมืองเอริโมะ ในจังหวัดฮอกไกโด ที่ 27.9 เมตร
สึนามิยังอาจสร้างความเสียหายแก่พื้นที่บางส่วนของชายฝั่งจังหวัดอาโอโมริ ที่ติดกับทะเลญี่ปุ่น ที่รวมถึงอ่าวมัตสึ โดยพื้นที่ศาลากลางจังหวัดอาโอโมริ และอาคารสำนักงานท้องถิ่น คาดว่าจะมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร
แม้คณะกรรมการประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะคำนวณความเป็นไปได้ของเหตุแผ่นดินไหวลักษณะดังกล่าว แต่ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่ว่า เหตุสึนามิครั้งใหญ่มักเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวทุกๆ 300-400 ปี โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17
ทั้งนี้ “ร่องลึกญี่ปุ่น” ทอดยาวจากน่านน้ำนอกชายฝั่งเกาะฮอกไกโดไปจนถึงคาบสมุทรโบโสะ ในจังหวัดชิบะ ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว ส่วน “ร่องลึกคูริล” ทอดยาวจากน่านน้ำนอกชายฝั่งทะเลของอำเภอโทคาชิ บนเกาะฮอกไกโด ไปยังหมู่เกาะคูริล ของรัสเซีย
แผ่นดินไหวขนาด 9.0 และคลื่นยักษ์สึนามิที่ซัดถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 และมีผู้เสียชีวิตถึงกว่า 15,000 คน ยังมีความเกี่ยวข้องกับร่องลึกญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้คณะกรรมการคาดการณ์ว่า แผ่นดินไหวจะมีจุดศูนย์กลางในแถบน่านน้ำชายฝั่งซานริกุ และเขตฮิดากะของเกาะฮอกไกโด รวมถึงน่านน้ำนอกชายฝั่งทะเลเมืองโทคาชิ และเนมุโระ
นายเคนจิ ซาตาเกะ นักแผ่นดินไหววิทยาจากมหาวิทยาลัยโตเกียว และหัวหน้าคณะกรรมการ ชี้ว่า แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ แม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก แต่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว เนื่องจากแผ่นดินไหวในลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในรอบ 6,000 ปีที่ผ่านมา
นายซาตาเกะ กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่นการสร้างเขื่อนตลอดแนวชายฝั่ง อาจรับมือได้ค่อนข้างยากหากเกิดแผ่นดินไหวในลักษณะนี้ ส่วนการปกป้องชีวิตประชาชน อาจต้องใช้นโยบายพื้นฐานคือการอพยพ
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดตัวคณะทำงานเมื่อวันอังคาร เพื่อประเมินความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชน สิ่งก่อสร้าง และเศรษฐกิจ ด้วยการคาดการณ์เหตุหายนะที่อาจเกิดขึ้น และการศึกษามาตรการป้องกัน โดยมีแผนจะหาข้อสรุปให้ได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้า
คณะกรรมการยังได้สร้างแบบจำลองโดยอาศัยข้อมูลการวิเคราะห์ความเสียหายที่เกิดจากสึนามิในช่วง 6,000 ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ ฮอกไกโด, อาโอโมริ, อิวาเตะ, มิยางิ, ฟุกูชิมะ, อิบารากิ และชิบะ