SHARE

คัดลอกแล้ว

ญี่ปุ่นประหารชีวิตนักโทษชายต้องโทษคดีฆาตกรรมจนมีผู้เสียชีวิต 7 ราย เหตุเกิดที่กรุงโตเกียวเมื่อปี 2551

นายโทโมฮิโระ คาโต้ วัย 39 ปี ถือเป็นนักโทษรายแรกในปีนี้ที่ถูกประหารชีวิตด้วยวิธีการแขวนคอ หลังศาลญี่ปุ่นตัดสินให้เขามีความผิดฐานฆาตกรรม หลังขับรถบรรทุกพุ่งเข้าใส่ประชาชนในย่านอากิฮาบาระของกรุงโตเกียวเมื่อปี 2551 จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย จากนั้นได้ใช้มีดไล่แทงประชาชนเสียชีวิตรวม 7 ศพ ถือเป็นเหตุฆาตกรรมสังหารหมู่ครั้งใหญ่สุดของญี่ปุ่นในรอบ 7 ปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายคาโต้ ซึ่งมีอายุ 25 ปีในขณะนั้น ได้ในที่เกิดเหตุ และมีการเปิดเผยในภายหลังว่า เขาได้ให้การกับตำรวจว่า “ผมมาที่อากิฮาบาระเพื่อฆ่าคน ดังนั้นไม่สำคัญหรอกว่าผมจะฆ่าใคร”

นอกจากนี้ ตำรวจได้ตรวจค้นรถบรรทุกของนายคาโต้พบว่าเขาได้มีการเตรียมแผนการเดินทางไปยังย่านอากิฮาบาระในกระดานข่าวบนอินเทอร์เน็ต รวมถึงการพิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์มือถือในขณะขับรถบรรยายถึงความไม่มั่นคงเรื่องงานและความเหงาในชีวิตจากการเปิดเผยของอัยการ นายคาโต้ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอาโอโมริ ในภาคเหนือของญี่ปุ่น เป็นบุตรชายของนายธนาคาร และจบศึกษาระดับชั้นมัธยมจากโรงเรียนมัธยมปลายชั้นนำ แต่เรียนไม่จบในระดับปริญญา จึงไปประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมรถ ก่อนที่เขาจะเริ่มมีปัญหาทางจิต หลังจากที่ผู้หญิงซึ่งพูดคุยกันผ่านโลกออนไลน์ ยุติการติดต่อหลังจากที่เห็นรูปถ่ายของนายคาโต้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติกรรมของญี่ปุ่นแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า พฤติกรรมการก่อเหตุของนายคาโต้ “มีการเตรียมการมาอย่างดี และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันแรงกล้าในการก่อเหตุฆาตกรรม ซึ่งศาลได้พิจารณาโทษประหารชีวิตมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมถึงได้อนุมัติให้ดำเนินการประหารชีวิตนักโทษรายนี้หลังจากที่มีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนอีกที”

ขณะที่รายงานจากสื่อญี่ปุ่นระบุว่า นายคาโต้ได้ถูกนำตัวไปประหารชีวิตด้วยวิธีการแขวนคอในศูนย์กักกันที่กรุงโตเกียว หลังจากที่ศาลยืนคำตัดสินประหารชีวิตเขาในปี 2558 โดยให้เหตุผลว่าคดีนี้ “ไม่มีเหตุให้ผ่อนปรน” หลังจากที่เขายื่นอุทธรณ์ต่อศาลเมื่อปี 2554

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วเพียงไม่กี่แห่งที่ยังมีระบบการทำโทษด้วยการประหารชีวิต ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและนานาชาติมาเป็นเวลานาน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า