Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

แม้รับผลกระทบอย่างหนักจากการทำรัฐประหารของรัฐบาลมินอ่องลายและการระบาดของโควิด-19 แต่รายงานยังสะท้อนว่า บริษัทญี่ปุ่นกว่า 70% จะยังคงทำธุรกิจในเมียนมาร์ไปอีก 1-2 ปีนับจากนี้ แต่หากสถานการณ์ยังแย่ลงอาจต้องถอนการลงทุน

จากรายงานล่าสุดของ Japan External Trade Organisation หรือ JETRO เกี่ยวกับ ‘ผลสำรวจบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่ลงทุนใน ‘เมียนมาร์’ ระบุว่า ในขณะที่บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นกว่า 52.3% ที่ตัดสินใจจะรักษาระดับการดำเนินงานปัจจุบันในเมียนมาร์ และอีก 13.5% เลือกจะขยายธุรกิจในเมียนมาร์ต่อไป 

แต่ก็มีบริษัทกว่า 27.5% ที่ตัดสินใจจะลดขนาดธุรกิจในเมียนมาร์ลง และอีก 6.7% จะถอนตัวออกจากประเทศหรือย้ายการดำเนินงานไปยังประเทศอื่นๆ

โดยรายงานสะท้อนว่า หากหลังจากนี้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของเมียนมาร์ยังคงแย่ลง นักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากอาจไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องลดการดำเนินงานหรือถอนตัวออกจากเมียนมาร์

เมื่อเราย้อนมาดูผลสำรวจจะพบว่า 63.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า ‘ผลกำไร’ ในปี 2564 จะลดลงจากปีก่อนหน้า โดยมีเพียง 27.8% ของนักลงทุนญี่ปุ่นที่คาดว่า ผลประกอบการจะเพิ่มขึ้น

เมื่อถึงคำถามที่ว่า “ทำไมจะลด ย้าย หรือถอนการดำเนินงานจากเมียนมาร์?” นั้น 

รายงานระบุว่า  68.4% ของผู้ตอบแบบสอบถามพูดถึง ‘ยอดขายที่ลดลง’ และ 50.9% พูดถึง ‘ศักยภาพของประเทศและการเติบโตที่ต่ำ’ 

โดยหลายคนชี้ให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เสื่อมโทรมลงจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน และความไม่แน่นอนในอนาคตประเทศเมียนมาร์หลังจากนี้

ทั้งนี้ ในวันที่ 1 ก.พ. 2565 จะครบ 1 ปีในการทำรัฐประหารของกองทัพเมียนมาร์แล้ว แต่ดูเหมือนสถานการณ์ในเมียนมาร์จะยังคงไม่ดีขึ้น เมื่อปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองและความมั่นคงในเมียนมาร์น่าจะยังคงผันผวนต่อไปในปี 2565 โดยมีการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4 ร่วมกับอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำและโควิดสายพันธุ์เป็นตัวเพิ่มความเสี่ยง

นอกจากนั้น ยังระบุว่า ประชาชนประมาณ 14.4 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรของเมียนมาร์จำเป็นจะต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างอาหารและยาในปีนี้ เนื่องจากราคาอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในครัวเรือนพุ่งสูงขึ้นหลังจากรัฐประหาร ซ้ำด้วยแพนดามิก

ขณะที่ก่อนหน้านั้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดว่า ในปี 2564 เศรษฐกิจของเมียนมาร์จะหดตัว 17.9% และในปี 2565 จะหดตัว 0.1% และบริษัทรับเหมาก่อสร้างหลายแห่งในเมียนมาร์ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงการระงับความช่วยเหลือด้านการพัฒนาจากญี่ปุ่น เพื่อตอบโต้ต่อการโค่นล้มรัฐบาลประชาธิไตยของกองทัพเมียนมาร์

ที่มา https://www.japantimes.co.jp/news/2022/01/10/business/myanmar-japan-business-outlook/ 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า