ญี่ปุ่นเล็งใช้ ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ ฉีดไขว้กับ ‘ไฟเซอร์-โมเดอร์นา’ หวังเร่งกระจายวัคซีนเร็วขึ้น

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมใช้แอสตร้าเซนเนก้ามาเร่งสปีดการฉีดวัคซีนในกลุ่มคนอายุน้อย หลังจากที่ฉีดกลุ่มผู้สูงอายุไปแล้ว 90% 

วันที่ 29 ส.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานการให้สัมภาษณ์ของ ทาโร โคโนะ รัฐมนตรีด้านปฏิรูปการบริหาร ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบการฉีดวัคซีนภายในประเทศ ที่ออกมาเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะนำวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ที่ผลิตภายในประเทศ มาใช้ร่วมกับวัคซีนที่ฉีดอยู่อย่าง ไฟเซอร์ (Pfizer) และ โมเดอร์นา (Moderna)

เดิมทีญี่ปุ่นอนุญาตให้มีการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในกลุ่มผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปีที่ต้องการฉีดเท่านั้น แต่จากการที่กลุ่มผู้ที่มีอายุน้อย กำลังได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดระลอกล่าสุด ทำให้ญี่ปุ่นอาจนำวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่มีอยู่ในมือจำนวน 2 ล้านโดสมาใช้งาน

นายโคโนะเผยว่า เขาได้สอบถามไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอความเห็น ต่อกรณีที่จะนำวัคซีนมาฉีดสลับยี่ห้อกัน ซึ่งถ้าได้รับอนุญาตให้ทำได้ ก็อาจจะพิจารณาเพิ่มทางเลือกเพื่อนำมาใช้ฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ด้วย

ตามรายงานยังระบุว่า ปกติแล้ววัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าจะต้องเว้นระยะห่าง 8 สัปดาห์ ระหว่างเข็ม 1 และ 2 แต่หากนำมาฉีดร่วมกับยี่ห้ออื่น ก็อาจจะมีการลดระยะห่างเหล่านั้นลงเพื่อให้การฉีดวัคซีนครบ 2 โดสทำได้รวดเร็วขึ้น 

ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่เริ่มฉีดวัคซีนช้ากว่าประเทศอื่นในกลุ่มเดียวกัน แต่ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา พวกเขาฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็วจนมีสัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วถึง 44% โดยในกลุ่มผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี ต่างได้รับวัคซีนแล้วถึง 90% ด้วยกัน