วันที่ 6 เม.ย.63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตรียมวางแผนประกาศภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในประเทศ หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียวเพิ่มอีก 118 ราย ถือเป็นครั้งแรกที่จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุหลักร้อยในรอบ 24 ชั่วโมง ส่งผลให้กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 1,000 ราย
โดยทางนายกรัฐมนตรีอาเบะถูกกดดันจากหลายฝ่ายให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา พร้อมกันนั้นยังมีการเรียกร้องให้ดำเนินการ จากยูริโกะ โคอิเกะ (Yuriko Koike) ผู้ว่าการกรุงโตเกียว และสมาคมการแพทย์ญี่ปุ่น ที่กำลังหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
ทางด้านรัฐบาลกรุงโตเกียวและผู้เชี่ยวชาญด้านบริการสุขภาพระบุว่า เตียงสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 กำลังจะหมดลงในไม่ช้า ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการจัดหาเตียงเพิ่มอย่างเร่งด่วนนอกจากนี้ เมื่อไม่นานมานี้คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลกล่าวเตือนว่าระบบบริการสุขภาพของญี่ปุ่นอาจพังทลายลง หากยอดผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูงต่อเนื่อง สร้างแรงกดดันเพิ่มต่อรัฐบาลในการเร่งป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเป็นรูปธรรม
โดยทางผู้เชี่ยวชาญกล่าวสรุปว่า ระบบบริการสุขภาพในโตเกียวและจังหวัดอื่นๆ อีก 4 แห่งของญี่ปุ่นกำลังแบกรับแรงกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ จึง “ควรเร่งดำเนินมาตรการรับมือที่เข้มงวดให้เร็วที่สุด” ทั้งนี้ ก่อนประกาศภาวะฉุกเฉิน อาเบะต้องสอบถามความเห็นจากคณะที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และระดับความฉุกเฉินของสถานการณ์จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
ประการแรก การแพร่ระบาดต้องรุนแรงในระดับที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน ประการที่ 2 การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสเป็นภัยอันตราย ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ การประกาศภาวะฉุกเฉินจะให้อำนาจแก่รัฐบาลในการสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ทั้งยังสามารถสั่งปิดโรงเรียน และระงับการใช้สถานที่เพื่อรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในญี่ปุ่น ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อ 3,654 ราย เสียชีวิต 85 ราย และรักษาอาการหายแล้ว 575 ราย