JC Penney ห้างดังสหรัฐฯ อายุ 118 ปี ยื่นขอล้มละลาย

วันที่ 17 พ.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจซี เพนนีย์ (JC Penney) ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของสหรัฐฯ ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 118 ปี ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะล้มละลายแล้วเพื่อปรับโครงสร้าง ถือเป็นธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐฯ รายล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เจซีเพนนีย์แถลงว่า ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ที่ให้ธุรกิจที่ไม่สามารถชำระหนี้สามารถปรับโครงสร้างได้ ซึ่งจะทำให้ต้องปิดสาขาบางแห่งทั่วสหรัฐจากที่มีอยู่ทั้งหมด 846 สาขา โดยห้างมีเงินสด 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,032 ล้านบาท และเจ้าหนี้รับปากจะช่วยเหลืออีก 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28,856 ล้านบาท ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า เจซีเพนนีย์เตรียมล้มละลายเพราะผิดนัดชำระหนี้เมื่อเดือนเมษายน

จิล ซอลเทา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแถลงว่า โรคโควิด-19 แพร่ระบาดก่อให้เกิดความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับครอบครัว ชุมชน และประเทศ ก่อนหน้านี้ธุรกิจค้าปลีกอเมริกันเผชิญกับความจริงที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้เจซีเพนนีย์ต้องตัดสินใจอย่างลำบากในการดำเนินธุรกิจจนสามารถกอบกู้ธุรกิจขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง แต่ในระหว่างที่กำลังหาทางสร้างความแข็งแกร่งให้กับงบการเงินและยืดสายป่านทางการเงินออกไป การต้องปิดสาขาเพราะโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องทบทวนครั้งใหญ่รวมถึงการขจัดหนี้ที่ยังค้างชำระ

เจซีเพนนีย์ก่อตั้งขึ้นโดยนายเจมส์ แคช เพนนีย์ ที่รัฐไวโอมิงเมื่อปี 1902 ก่อนที่จะกลายเป็นค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ที่เคียงคู่กับห้างสรพพสินค้าเมซีส์ (Macy’s) และเซียร์ส (Sears) โดยมีชื่อเสียงด้านการจำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ ปัจจุบันมีพนักงานอยู่ราว 85,000 คน

ห้างเคยรอดพ้นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ เมื่อปี 1929 และเติบโตอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 20 แต่การเข้ามาของธุรกิจออนไลน์ ทำให้บริษัทมียอดขายลดลงส่งผลให้ต้องปิดห้างหลายร้อยสาขา และปลดพนักงานหลายพันคน

เมื่อปีที่แล้ว บริษัทรายงานว่ามียอดขายราว 10,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 342,400 ล้านบาท หรือลดลงมากกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปี