สะพานปลาระนอง 263 ล้านสร้างแล้วใช้ไม่ได้จริง คาดเจออีกหลายจังหวัดภาคใต้

วันที่ 16 ต.ค. พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการกองกำกับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (รอง ผบก.ปปป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปป.จากส่วนกลางเข้าตรวจสอบโครงการบำรุงสุขอนามัยองค์กรสะพานปลา ที่มีการก่อสร้างอาคารจำนวน 2 แห่งและโรงบำบัดน้ำเสียจำนวน 1 แห่งใช้งบประมาณการก่อสร้างปี 2557-2559 จำนวน 263 ล้านบาท โดยมีนายธีระศักดิ์ จิตวิบูลย์ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสำนักงานท่าเทียบเรือประมงระนอง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ นำเข้าตรวจสอบจุดที่มีการก่อสร้างทั้ง 3 จุดเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายการปราบปรามการทุจริต ในพื้นที่ ม.1 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง

พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวว่า กองบังคับการได้รับการร้องเรียนจากผู้อำนวยการองค์การสะพานปลาให้เข้าตรวจสอบการก่อสร้าง ประกอบด้วย 1.โรงและอาคารบำบัดน้ำเสีย 2.อาคารแช่แข็งสำหรับเตรียมส่งออก และ 3 อาคารสำหรับรับสัตว์น้ำจากเรือมาประมูล ซึ่งการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว มีการส่งมอบกันเมื่อเดือนเมษายน 2561 แต่ยังอยู่ในช่วงประกันงานจากบริษัทผู้รับเหมาคือบริษัทรัชภูมิค้าไม้(จังหวัดสงขลา) เป็นเวลา 2 ปี

เรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาคือการก่อสร้างทั้ง 3 แห่งไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์หลายอย่างเช่นระบบการบำบัดน้ำเสีย อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์การเดินน้ำใช้สำหรับใช้ล้างสัตว์น้ำ ห้องน้ำ อาคารหรือห้องสำหรับให้ผู้ประกอบการเข้ามาเช่าใช้เพื่อดำเนินการในการค้าขายสัตว์น้ำไม่สาสมารถใช้ได้ และยังมีเครนจำนวน 10 ตัวที่อยู่บริเวณหน้าท่าสำหรับใช้ยกสัตว์น้ำจากเรือประมงขึ้นมาบริเวณจุดประมูลปลา สามารถใช้จริงได้เพียง 4 ตัว จาก 10 ตัวตั้งแต่วันที่มีการเซ็นรับรองส่งงานจากผู้รับเหมา ซึ่งปัญหาทั้งหมดเกิดตั้งแต่การก่อสร้าง จนถึงขั้นตอนการส่งมอบต่อคณะการตรวจสอบ

สำหรับการตรวจสอบเมื่อเห็นจากสภาพของจริงและคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่ท่าเทียบเรือประมงระนองก็พอจะทราบแล้วว่าเป็นอย่างไร การตรวจสอบเพิ่มเติมจะแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.ตรวจสอบบริษัทผู้รับเหมาว่าคุณสมบัติในการทำงานด้านดังกล่าวหรือไม่ 2.วิศวกรผู้ควบคุมงานมีการดูและงานทุกขั้นตอนและมีการตรวจงานทุกครั้งที่มีการส่งมอบงานจากบริษัทผู้รับเหมาในแต่ละช่วงหรือไม่ 3.ตรวจสอบผู้ร่วมตรวจงานลงนามให้กับผู้รับเหมาให้งานผ่านแต่ละครั้งว่ามีความถูกต้องหรือไม่ หลังจากนี้จะได้ทำหนังสือเชิญบริษัทเข้าทำการสอบสวนที่ส่วนกลาง เพื่อประกอบรูปคดี

พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการกองกำกับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ

พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวต่อว่า กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและการประพฤติมิชอบ ได้เริ่มตรวจสอบโครงการในลักษณะดังกล่าวนี้ที่จังหวัดระนองเป็นแห่งแรก เนื่องจากมีงบประมาณสูงมีการส่งมอบงานกันเรียบร้อย และมีการร้องเรียนโดยตรงจากผู้อำนวยการท่าเทียบเรือในส่วนกลาง ซึ่งในภาคใต้ยังมีหลายอีกหลายจังหวัดที่ติดทะเล ที่มีการก่อสร้างแต่ยังไม่เสร็จทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทยทั้งบริษัทผู้รับเหมาดังกล่าวและผู้รับเหมารายอื่น หากพบมีการทุจริตจะรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด เนื่องจากเป็นงบประมาณของแผ่นดินเป็นเงินภาษีของคนไทย