‘สรยุทธ’ เผยนักข่าวเห็น ‘จ๊อบ’ มีแผลขณะที่ ‘ปอ’ ให้นักข่าวลบภาพทิ้ง

ช่อง 3 เปิดคลิป นาที จ๊อบถอดเสื้อ จนนักข่าวสังเกตุเห็นรอยแผล หลังสรยุทธ เผยนักข่าวเห็น จ๊อบ มีแผลฟกช้ำและมีรอยข่วน เมื่อถามถึงบอกว่าไม่โอเค ขณะที่ปอให้นักข่าวลบภาพทิ้ง 

วันที่ 1 มี.ค. 2565 ความคืบหน้าคดี ‘แตงโม นิดา’ ตกเรือวันนี้ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ มาปรึกษาถึงผลการชันสูตรศพแตงโม รวมทั้งให้กลุ่มเพื่อนแตงโม ทั้ง 5 คน มาตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ตามที่มีคนสงสัย โดยเมื่อวานนี้ทั้ง 5 คนเดินทางไปออกรายการโหนกระแส ของหนุ่ม กรรชัยทางช่อง 3 

ขณะที่รายการเรื่องเล่าเช้านี้ สรยุทธ สุทัศนะจินดาและพิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ อ่านข่าวคดีนี้ พร้อมเล่าประเด็นหนึ่งว่า จากที่ 5 คน มาออกรายการโหนหระแส โดยหลังจบรายการ ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้พูดคุยกับจ๊อบ ระหว่างที่คุยกัน นักข่าวสังเกตเห็นแผลฟกช้ำขนาดเท่าลูกมะนาวที่บริเวณใกล้รักแร้ขวาทางด้านหลัง นอกจากนี้นักข่าวยังสังเกตเห็นแผลเป็นรอยขีดข่วน ตกสะเก็ดใกล้ข้อศอกข้างซ้าย และมีแผลคล้ายถูกข่วนบริเวณลำคอ จึงถามว่าแผลนี้คือแผลอะไร 

จ๊อบบอกว่า เพิ่งจะเห็นคิดว่าเป็นรอยที่เกิดจากการล้มบนเรือ ในตอนที่ขับเรือตามหาแตงโม หลังจากที่เจ้าตัวตกน้ำไปแล้ว 

นักข่าวซักต่อว่าล้มตรงไหนบนเรือ จ๊อบก็เริ่มออกอาการฉุนเฉียวแล้วบอกว่า “ถามแบบนี้ผมไม่โอเคเลย” จากนั้น จ๊อบได้เดินไปบอกปอ ว่าไม่สบายใจที่ถูกถามเรื่องแผล จากนั้นปอจึงมาบอกนักข่าวขอให้ลบและฟอร์แมตภาพและเสียงสัมภาษณ์ดังกล่าว ขณะที่ช่างภาพพยายามบอกว่า ถ้าไม่มีอะไร ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ทำไมจะต้องลบด้วย ขณะที่ปอยืนยันว่าต้องลบเพราะไม่อยากให้เป็นประเด็นอีก ถ้าไม่ลบจะเอาการ์ดไป สุดท้ายช่างภาพตัดสินใจลบภาพให้เพราะไม่อยากมีปัญหา

ด้าน สรยุทธ สุทัศนะจินดา  บอกว่าผมรู้เรื่องตอนเย็นก็ได้ตำหนิไปไม่มีเหตุอะไรให้ลบ และบอกอีกว่า น่าเสียดายที่ไม่มีภาพให้ดู ตามที่นักข่าวบอกให้ฟังก็อาจจะไม่มีอะไรก็ได้  การที่ทำอะไรไม่ชัดเดี๋ยวก็จะกลายเป็นประเด็นที่คนถามอีก วันนี้ตำรวจจะตรวจร่างกายอีกที ที่ผ่านมาตำรวจบอกตรวจไปไม่เจอแผลอะไร แล้วทำไมไม่เจอ ถ้าเมื่อวานเห็นกันชัดเจน  

ล่าสุดรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เผยคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ช่อง3 เปิดคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเป็นเห็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาตั้งแต่จ๊อบ ยืนพูดคุยกับผู้สื่อข่าว และถอดเสื้อให้ดู 

ที่มา  : รายการเรื่องเล่าเช้านี้, เที่ยงวันทันเหตุการณ์