SHARE

คัดลอกแล้ว

ในขณะที่วันเลือกตั้งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ยังคงสงวนท่าที ไม่ยอมประกาศชื่อผู้ที่จะมาเป็นคู่หู (Running mate) ของเขา ที่จะมาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนต่อไป หากเขาชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.

เมื่อเดือนพ.ค. ไบเดน เคยบอกว่าเขาจะประกาศชื่อคู่หูภายในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งตอนนี้ได้ล่วงเลยมาเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว จึงมีการคาดการณ์ว่าคงจะมีการประกาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนที่การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตในวันที่ 17-20 ส.ค. จะเริ่มขึ้น

ความล่าช้าในการตัดสินใจของไบเดน เป็นสไตล์การทำงานที่รู้กันดีในหมู่ผู้ที่เคยร่วมงานกับเขามาก่อน บางคนรู้สึกชื่นชมในความใจเย็นและรอบคอบ ซึ่งตรงกันข้ามกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยสิ้นเชิง แต่ก็มีฝั่งเดียวกันอีกไม่น้อย ที่รู้สึกหงุดหงิดและรำคาญกับการผัดวันประกันพรุ่ง แบบที่เขาเป็นอยู่ ณ ตอนนี้

สำหรับพรรคเดโมแครตแล้ว การเลือกคู่หูเข้ามาร่วมชิงชัย ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ มีความสำคัญมากเป็นพิเศษ

ข้อแรกคือการที่ไบเดน มาจากรัฐเดลาแวร์ ที่เป็นรัฐเล็ก มีจำนวนเสียงของคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral vote) เพียงแค่ 3 เสียงเท่านั้น

สำหรับระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น จะไม่ได้นับจากคะแนนเสียงที่มากที่สุด (Popular Vote) แต่เป็นการนับจากจำนวนเสียงของคณะผู้เลือกตั้งในแต่ละรัฐ หากใครชนะในรัฐไหน ก็จะได้คะแนนจากรัฐนั้นไปทั้งหมด

(COMBO) This combination of file photos created on March 4, 2020 shows US President Donald Trump(L) speaking to the media prior to departing from the White House in Washington, DC, on March 3, 2020, and Democratic presidential hopeful and former Vice President Joe Biden at a Nevada Caucus watch party on February 22, 2020, in Las Vegas, Nevada, during the Nevada caucuses. – President Donald Trump on March 4, 2020 hailed Democrat Joe Biden’s “incredible comeback” in the primaries race and signaled how he will attack the new frontrunner, saying he was surrounded by far leftists. “It was a great comeback for Joe Biden, an incredible comeback when you think about it,” Trump told reporters at the White House the morning after the Democrats’ Super Tuesday polls. Biden is running as a moderate, in contrast to his leftist rival Bernie Sanders, but Trump insisted that some of the former vice president’s “handlers are further left than Bernie. That’s pretty scary.” (Photos by SAUL LOEB and Ronda Churchill / AFP)

เช่นกรณีของ ปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 แม้ว่าจะได้คะแนนในสัดส่วน 46.1% ซึ่งน้อยกว่า ฮิลลารี คลินตัน ที่ได้ไป 48.2% แต่เมื่อนับคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งแล้ว ปรากฎว่าปธน.ทรัมป์เอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 304-227 เสียง

นั่นทำให้การเลือกผู้ที่จะมาเป็นคู่หู ต้องมีการคำนึงถึงการเรียกคะแนนเสียงจากแต่ละรัฐด้วย ยิ่งมาจากรัฐใหญ่ ก็ยิ่งมีความได้เปรียบในแง่ที่จะเรียกคะแนนจากระบบคณะผู้เลือกตั้งได้มากยิ่งขึ้น

และยิ่งถ้ามาจากรัฐที่เรียกว่า Battleground State หรือ Swing State เป็นรัฐที่ฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกันมีคะแนนสูสีกัน ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา ก็จะถือเป็นข้อได้เปรียบยิ่งขึ้นไปอีก เพราะคงไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะดึงคะแนนเสียงในรัฐที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีแนวโน้มเป็นผู้ชนะสูงอยู่แล้ว

นอกจากเรื่องดึงคะแนนเสียงจากความเป็นเจ้าถิ่น ในการเลือกตั้งปีนี้ ยังมีเรื่องของความหลากหลายและสีผิวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

การที่ไบเดนเป็นผู้ชายผิวขาวนั้น มักจะถูกมองว่าเป็นชนชั้นที่ได้รับอภิสิทธิ์มากที่สุดในสังคม จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่คู่หูของเขาจะต้องเป็นตัวแทนของเพศและสีผิวอื่น

ฉะนั้นในรายชื่อของผู้ที่จะมีโอกาสได้มาเป็นคู่หูของเขา จึงอุดมไปด้วยรายชื่อของผู้หญิงผิวสี ที่จะมาช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านความแตกต่างของฝั่งพรรคเดโมแครตได้

US Representative Tammy Duckworth of Illinois arrives to address delegates on the fourth and final day of the Democratic National Convention at Wells Fargo Center on July 28, 2016 in Philadelphia, Pennsylvania. / AFP PHOTO / SAUL LOEB

หนึ่งในนั้นคือ พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐอิลลินอยส์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นผู้หญิงผิวดำ แต่ก็มีความเป็นเอเชียซึ่งเป็นตัวแทนของชนกลุ่มน้อยในสหรัฐเช่นกัน

ในแง่ของการเรียกคะแนนเสียง ผู้หญิงผิวดำอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากเป็นตัวแทนของคนผิวดำที่มีสัดส่วนเยอะกว่าในสหรัฐฯ แต่ตัวของส.ว.ดักเวิร์ธเองก็มีเรื่องราวของการเป็นทหารผ่านศึก ที่ออกรบจนต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง เธอจึงสามารถพูดได้เต็มปากว่าเธอเสียสละเพื่อชาติมาแล้ว

ที่ผ่านมาเธอได้วิจารณ์ปธน.ทรัมป์อย่างตรงไปตรงมา และค่อนข้างรุนแรง ทำให้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจะสามารถปราศรัยโจมตีฝั่งตรงข้ามได้อย่างเต็มที่ หากถูกเลือกมาเป็นคู่หูของอดีตรอง ปธน.ไบเดน

อย่างไรก็ตาม ยังมีแคนดิเดตอีกหลายคนที่มีโอกาสจะถูกเลือก โดยทาง อเล็กซานเดอร์ เบิร์นส์ นักข่าวสายการเมืองได้เขียนคอลัมน์ลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ระบุว่ามีผู้เข้าข่ายที่จะถูกเลือกทั้งสิ้น 13 คนในตอนนี้

นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ตัวแทนรองปธน.ของพรรคเดโมแครต อาจจะต้องมีคุณสมบัติเพียงพอ ที่จะก้าวมาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยหน้าอีกด้วย เพราะไม่ว่าใครจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไบเดนที่ปัจจุบันอายุ 77 ปี คงจะไม่ลงเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีสำนักข่าวใดกล้าฟันธง ว่าไบเดนจะเลือกใครมาเป็นคู่หู และคงจะรอคำตอบพร้อมๆ กับทุกคนภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า