โจ๊ก So Cool ความสำเร็จจากความดื้อ สู่อนาคตของลูกสาว กับหนังใหม่ มิสเตอร์ดื้อ

เมื่อก่อนเวลาพูดถึง โจ๊ก So Cool หรือ กรภพ จันทร์เจริญ คนไทยเกินครึ่งประเทศจะนึกถึงเขาในมาดนักร้องนักดนตรีแถวหน้า ผู้มีเสียงไพเราะบาดใจ และมีเพลงฮิตมากมายที่ทุกวันนี้ยังเปิดให้ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ เช่น เลี้ยงส่ง คนเขียมตัว และ ซากอ้อย เป็นต้น

แต่ในปัจจุบัน อีกบทบาทของ “บร๊ะเจ้าโจ๊ก” ที่หลายๆ คนนึกถึงได้ไม่แพ้งานเพลงคือการเป็นนักแสดงหนัง เขาถือเป็นขาประจำในรับบทตลกฮารั่วต่างๆ นำโดย ATM เออรัก เออเร่อ (2555) และ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ (2557) ซึ่งความตลกถูกจริตคนดูจนทำเงินถล่มทลายหลายร้อยล้าน

 และหากใครเป็นแฟนคลับ โจ๊ก So Cool บทบาทของเขาในหนังเรื่องใหม่ มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง ก็น่าจะเรียกเสียงฮาได้มากไม่แพ้ 2 เรื่องก่อน โดยคราวนี้เขารับบทเป็น แมน หนุ่มนักดนตรีที่หลงรัก หลิน (เก้า สุภัสสรา ธนชาต) พยาบาลสาว จนพยายามทำทุกอย่างเพื่อพิชิตหัวใจเธอให้ได้ แต่ก็ไม่วายต้องโดน ดื้อ (นน ชานน สันตินธรกุล) หลานชายของหลินคอยกันท่าเสมอ กลายเป็นสถานการณ์ชวนฮาและน่าติดตามไม่น้อย

นน-ชานน สันตินธรกุล และ เก้า – สุภัสสรา ธนชาต ในภาพยนตร์มิสเตอร์ดื้อ

 เมื่อต้องเล่นหนังที่มีตัวละครดื้อๆ แถมตัวละครของเขาเองก็มีเชื้อนี้อยู่ในตัวไม่น้อย โจ๊ก เลยได้รำลึกถึงความดื้อและวีรกรรมสมัยเด็กก่อนจะมาเป็นนักร้องนำวง So Cool ว่าตัวเขาดื้อมากๆ แต่เป็นความดื้อที่แปลกไม่น้อย

 “ดื้อมากครับ แต่ไม่ก้าวร้าว ตอนเป็นเด็กจะสุภาพกับพ่อแม่ กลัวนิดๆ ถึงปานกลาง แต่ดื้อเงียบๆ หรือไม่เงียบไม่รู้นะ สมมติไปเรียนหนังสือก็จะไม่เข้าเรียน เกรดเฉลี่ยได้ 0 หมด แต่เรานิสัยดี เราเชื่อฟังพ่อแม่ในเรื่องอื่นๆ เรามีมารยาท เราแค่ไม่ตั้งใจเรียน บางครั้งเข้าไปเรียน เราได้ยินเสียงครูเหมือนเสียงนก เสียงไก่ มันไม่เข้าไปในโสตประสาท เราจำอะไรไมได้เลย แต่พอเป็นเรื่องเพลงเราจำได้หมด”

 ไม่ว่าจะโตมาอย่างไรก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความดื้อของเขาส่งผลให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานในทุกวันนี้ และเมื่อเขามีครอบครัว มีลูกสาว 2 คนได้แก่ น้องยี่หวาและน้องยูจิน ที่น่ารักน่าชื่นชม เขายังสวมบทบาทการเป็นพ่อที่ดี และทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัวมากไม่แพ้การทำงาน เราจะพบเห็นคลิปหรือรูปภาพที่เขาเล่น ร้องเพลง หรือหยอกล้อกับลูกๆ อยู่บ่อยๆ ตามโซเชี่ยลมีเดียส่วนตัว

 แม้จะได้เชื้อพ่อมาเต็มๆ ทั้งหน้าตา ความรักในเสียงดนตรี และความเฮฮาน่ารักน่าชัง แต่หากจะมีสิ่งที่แตกต่างสักอย่างจากพ่อ ก็พบว่าต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว “สิ่งที่ไม่เหมือนเลยคือการศึกษา เขาเรียนได้ 4.0 ทุกเทอม ได้เกียรติบัตรตลอดเวลา แต่ขณะที่ผมการเรียนล้มเหลว” โจ๊กเล่าด้วยน้ำเสียงขำๆ 

ด้วยความรักลูกมากขนาดนี้ แต่เมื่อถามถึงความคาดหวังที่มีต่อลูกสาวทั้ง 2 คน เขาไม่ได้ขออะไรมากมายเลยและพูดด้วยโทนเสียงที่จริงจัง “พูดแล้วก็จะน้ำเน่าหน่อยๆ นะ ผมคาดหวังให้ลูกโตขึ้นมาเป็นคนดี จริงๆ ฮะ ไม่ว่าสุดท้ายพอเรียนมัธยมหรือมหาวิทยาลัยแล้วจะเรียนแย่ แต่อันนี้อาจจะเป็นบทสัมภาษณ์คนละอันกับแม่ของเขานะ อาจคิดไม่ตรงกันก็ได้ แต่ถ้าเรียนแย่ ผมไม่กังวล หรือจะไม่เป็นนักร้องไม่เป็นนักแสดง ไปทำอาชีพอะไรก็ได้ ไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่”

 “แต่ถ้าโตมาเป็นคนขี้โกง เป็นคนนิสัยไม่ดี อันนี้เป็นอย่างเดียวที่ผมจะเสียใจ แต่ถ้าเขาเป็นคนดีแล้วมีความสุข ผมก็ไม่ต้องการอะไรจากลูกแล้ว”

 เห็นแง่มุมเกี่ยวกับลูกแบบนี้ อาจทำให้หลายคนไม่คาดว่าตัวของ โจ๊ก So Cool จะจริงจังแบบนี้ จนบางทีก็น่าเห็นเขาไปเล่นหนังดราม่า รับบทเป็นพ่อคน เป็นผู้นำครอบครัวในหนังเรื่องเข้มๆ สักเรื่องเหมือนกัน มันคงจะเปลี่ยนบรรยากาศไม่น้อยและน่าสนใจมากทีเดียว แต่บทนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็อยู่ที่ผู้สร้างหนังไทยทุกท่านจะพิจารณา

 แต่ ณ ตอนนี้ หากใครอยากสัมผัสกับความฮาสุดขั้วของเขา อย่าลืมตีตั๋วเข้าไปดู มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง ได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์