J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) จับมือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (KAsset) ขยายบริการกองทุน ชิงเค้กคนรวยในประเทศไทย
‘แดน วัตกินส์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ.พี. มอร์แกน แอสเซท แมเนจเม้นท์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ทีมงานของ JPMAM รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ KAsset ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ลงทุนไทย
โดยมองว่าตลาดทุนไทยเป็นตลาดที่มีความคึกคักและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค
อย่างไรก็ดี ความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลกของ JPMAM ทำให้พวกเรามีความพร้อมที่จะนำเสนอโซลูชั่นการลงทุนที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้กับผู้ลงทุนไทย และเป็นการเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจของ JPMAM ไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งเติบโตสูง ทั้งในแง่ของขนาดสินทรัพย์และฐานลูกค้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนให้ JPMAM ขยายตลาดเข้ามายังประเทศไทยเพื่อชิงเค้กก้อนใหญ่นี้
‘ขัตติยา อินทรวิชัย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญกับธุรกิจการบริหารจัดการกองทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งให้กับลูกค้า
โดยปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าที่มีการลงทุนในกองทุนรวมเกือบ 1 ล้านราย (ณ วันที่ 25 ธ.ค. 2566) และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ดังนั้น ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง KAsset และ JPMAM ตั้งแต่การบริหารจัดการไปจนถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ตรงความต้องการของลูกค้าธนาคารกสิกรไทย จะช่วยยกระดับประสบการณ์การลงทุนของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สอดคล้องกับความมุ่งหมายของธนาคารในการส่งมอบผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่นักลงทุนไทย อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ KAsset เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ
‘อดิศร เสริมชัยวงศ์’ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด หรือ KAsset กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ลงทุนไทยประมาณ 60% กำลังเผชิญปัญหาพอร์ตการลงทุนมีความผันผวน (ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ณ วันที่ 25 ธ.ค. 2566)
โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปัจจัยเหล่านี้ได้นำไปสู่ความผันผวนของตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเมินสถานการณ์ได้ยากยิ่งขึ้น
ดังนั้น KAsset จึงมุ่งพัฒนาแผนกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก พร้อมปรับรูปแบบการลงทุนให้สอดรับและทันทุกการเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ KAsset ที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนไทยมีความมั่นคงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยตั้งเป้าหมาย AUM ในกลุ่มกองทุนสินทรัพย์หลากหลาย (Multi-Asset Funds) จะเติบโตแตะ 100,000 ล้านบาทภายในอีก 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) เพื่อช่วยลูกค้ากระจายการลงทุน
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังจาก 2 บลจ.ชั้นนำด้านการลงทุน โดย JPMAM เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการลงทุนระดับโลก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่ KAsset เป็นผู้นำตลาดกองทุนรวมของไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 1.49 ล้านล้านบาท ที่มีความเข้าใจเชิงลึกต่อสินทรัพย์และสถานการณ์การลงทุนในไทย
โดยความร่วมมือนี้จะมุ่งเสริมศักยภาพของ KAsset ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้ข้อมูลเชิงลึกที่เข้าถึงผู้ลงทุนได้ทันสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา และการให้คำปรึกษาอย่างเข้าใจ ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงิน