วันนอร์-ปิยบุตร เรียกร้องทบทวนกระบวนการยุติธรรม หลังผู้พิพากษายิงตัวเองซ้ำ

นายคณากร เพียรชนะ

จากกรณีวันที่ 7 มี.ค. ที่นายคณากร เพียรชนะ หัวหน้าคณะศาลชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ที่ จ.เชียงใหม่ หลังเมื่อเดือน ต.ค. 62 เคยยิงตัวเองจนได้รับบาดเจ็บในห้องพิจาณาคดีมาแล้วครั้งหนึ่งและเมื่อรักษาตัวหายแล้วถูกย้ายไปทำงานที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จ.เชียงใหม่ ระหว่างถูกตั้งคณะกรรมการสอบ
.
โดยในครั้งนี้ได้เขียนจดหมาย ก่อนยิงตัวเองในความสำคัญว่า หลังเหตุการณ์ที่ยิงตนเองที่ จ.ยะลา เพราะถูกแทรกแซงผลคำพิพากษา หลังจากนั้น ตนถูกตั้งกรรมการสอบสวนและถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งตนเชื่อว่าสุดท้ายจะต้องถูกลงโทษออกจากราชการแน่

คณากร เพียรชนะ วันที่แพทย์อนนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้

ตนขอยืนยันว่า สิ่งที่ทำลงไปทำด้วยหัวใจบริสุทธิ์ต้องการให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนและไม่เสียใจที่ได้กระทำ พร้อมยกตัวอย่าง ในอดีตที่ใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ที่ร่างขึ้น โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่เป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยที่สุด และในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ไม่ให้มีการตรวจร่างคำพิพากษาในศาลชั้นต้นที่จะเปิดโอกาสให้มีการแทรกแซงผลคำพิพากษา

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ

ต่อมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งว่า ท่านผู้พิพากษาได้สละชีพตนเองเพื่อชี้ให้เห็นจุดบอดอีกครั้ง เป็นอีกวันสลดใจกับประเทศไทย ที่มีข้อมูลมากมายจากหัวใจของผู้พิพากษาที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการระบายความในใจ เรื่องราวความเป็นมาเป็นไป
.
ตนไม่เชื่อว่าท่านผู้พิพากษากระทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบหรือขาดสติ เพราะเรื่องนี้ได้ถูกชี้แจง และพิสูจน์มาหลายสถานจนพอรับรู้เข้าใจได้ ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ผมขอเรียกร้องให้มีการสืบสวนสอบสวนกรณีนี้ตรงไปตรงมาอย่างเร่งด่วน
.
พร้อมให้พิจารณาช่วยเหลือครอบครัวของท่านที่ยังมีลูกเล็กเรียนหนังสือและภริยาที่ต้องคอยเป็นเสาหลักของครอบครัวต่อไปด้วยเงินบำนาญและเงินอุดหนุนสมทบช่วยเหลือจากทางรัฐบาลไปให้สมฐานะผู้พิทักษ์ความยุติธรรมของปวงชนที่ยอมสละชีพของตนเองเพื่อยืนหยัดในวิชาชีพของตน

ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า หลังเหตุการณืที่ยะลามีความพยายามอธิบายว่าการกระทำของผู้พิพากษา คณากร เกิดจาก ความเครียดส่วนตัวและอาจหวังผลทางการเมือง ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้เป็นสิ่งที่น่าละอายอย่างยิ่ง เพราะมิได้คำนึงถึงความเป็นมนุษย์ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเลย
.
ผู้พิพากษาคนหนึ่งที่มีหน้าที่การงานมั่นคง ตัดสินใจออกมากระทำการแบบนี้ เป็นเรื่องน่าเศร้าสลด เพราะเขาอึดอัดไม่สามารถพูดและแสดงออกถึงปัญหาในการทำงานและความอยุติธรรมที่พบเจอได้ เมื่อพยายามเรียกร้องทุกหนทางแล้วจนเห็นว่าไม่มีหนทางอื่นใด จึงเลือกกระทำเช่นนั้น
.
แม้กระแสสังคมจะหันมาให้ความสนใจกับประเด็นการแทรกแซงการพิจารณาคดีของผู้พิพากษาศาลชั้นต้น และตั้งคำถามกับความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป
.
ในขณะที่การตรวจสอบ ศึกษา และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อประกันความเป็นอิสระของผู้พิพากษา มิให้ถูกแทรกแซงการพิจารณาคดี กลับไม่ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจริงจังและก็เงียบหายไปอีกเช่นกัน
.
นายปิยบุตร ระบุด้วยว่า การตัดสินใจจบชีวิตตนเองเป็นครั้งที่สองของ คณากร เพียรชนะ คือภาพสะท้อนของความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมไทยที่ละเลยผู้ที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้อื่น
.
การยกย่องให้เกียรติ แสดงความคารวะ และแสดงความอาลัย แก่ท่านผู้พิพากษา คณากร เพียรชนะ ที่ดีที่สุดคือการหันมาให้ความสนใจหารือแลกเปลี่ยนและหาหนทางร่วมกันรณรงค์แก้ไขปรับปรุงระบบการจ่ายสำนวนของผู้บริหารศาลให้แก่องค์คณะ และการตรวจร่างคำพิพากษา เพื่อสร้างหลักประกันความเป็นอิสระแก่ผู้พิพากษาตุลาการ เพื่อ “คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คณากร ผู้พิพากษาฯ ชื่อดังทำอัตวินิบาตกรรมเสียชีวิตแล้ว